สุดเศร้าสลด!ลูกช้างป่าถูกยิงตายใกล้ไร่อ้อย-มันสำปะหลัง

สุดเศร้าสลด!ลูกช้างป่าถูกยิงตายใกล้ไร่อ้อย-มันสำปะหลัง





ad1

ปราจีนบุรี –เครือข่ายเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่าฯบุกยื่นหนังสือให้รัฐบาลแก้ปัญหาช้างป่า โดยก่อนหน้าอาสาเฝ้าระวังถูกช้างถูกช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน (ในเขตป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง)ทว่าเพียงข้ามวัน ช้างป่า ถูกยิงตายอนาถ!  โดยทั้งลูกกระสุนปืนลูกซอง- 9 มม.พรุน 9นัดกระอักเลือดตาย 

เมื่อเวลา 21.30 น.วันนี้ 11ต.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี  รายงานว่าได้รับแจ้งจากนายสุวิชาญ  สุวรรณนาคะ เลขาธิการเครือข่ายเครือข่าวผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่าภาคประชาชน ระบุ 11 ต.ค. 66 เวลา 14.00 น. ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา  ประธานสภาผู้แทนราษฎร  มอบหมายให้ นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่าภาคประชาชน โดยนายดิเรก จอมทอง ประธานเครือข่ายฯ และ ดร.สุวิชาณ สุวรรณาคะ เลขาธิการเครือข่ายฯ นำผู้นำชุมชนในพื้นที่ประสบภัยจากช้างป่า จากจังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 10 คน  ยื่นหนังสือขอให้สภาผู้แทนราษฎร ติดตามทวงถามการแก้ปัญหาช้างป่า ตามข้อสังเกตของคณะกมธ. ด้วยปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์บุกรุกพื้นที่ของประชาชน เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า 20 ปี เกิดความเสียหายในทรัพย์สิน พืชสวน พืชไร่ ตลอดจนเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งคนและช้างป่าจำนวนมาก

 เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับคน คนกับช้างป่า มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตของทั้งคนและช้างป่ามากขึ้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สถานการณ์ปัญหาช้างป่ามิได้ลดน้อยลงล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลคลองพลู อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี มีชาวบ้านที่ออกกรีดยางพาราในพื้นที่ทำกินของตนเอง ถูกช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน (ในเขตป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดจ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง)  ทำร้ายจนเสียชีวิต และวันที่ 10 ตุลาคม 2566 พื้นที่ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายอาสาสมัครผลักดันช้างป่า จำนวน 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ  

ล่าสุดวันนี้ 11 ต.ค. 66 บริเวณป่ายูคาลิปตัส ใกล้เคียงป่าอ้อย และไล่มันสําปะหลัง ติดชายป่าบ้านโป่งเจริญ พื้นที่หมู่ที่ 12 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา  พบช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน (ในเขตป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง)  อายุประมาณ 5 -3 ปี ถูกยิงตาย   นั้น

เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่าภาคประชาชน  เห็นว่าปัจจุบันนี้ ประชาชนไม่มีความปลอดภัยในการดำรงชีวิต แม้แต่อาสาสมัครผลักดันช้างป่า ยังถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ  ปัจจุบัน รัฐบาลยังไม่มีการแก้ปัญหาช้างป่าที่เป็นรูปธรรม
ทั้งที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ยังมีการนำไปสู่การปฏิบัติไม่มากพอ 

จึงขอเรียกร้อง ดังนี้ ขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ใช้กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติติดตามผลักดัน ให้รัฐบาลนำข้อสังเกตในรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สู่การปฏิบัติต่อไป

นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ กล่าวภายหลังรับเรื่องดังกล่าวว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร  ติดภารกิจในการเป็นประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้(11 ต.ค. 66) พบลูกช้างป่าเพศผู้วัยประมาณ 5-6 ปี

จึงมอบหมายให้ตนมารับเรื่องดังกล่าวแทน จากนี้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบเอกสารตามขั้นตอนของทางราชการและจะรีบนำกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

พร้อมกันนี้ ได้ยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร (นายนิติพล ผิวเหมาะ กรรมาธิการกิจการสภาฯ เป็นตัวแทนรับหนังสือ) ขอให้บรรจุข้อเรียกร้องเพื่อให้เครือข่ายฯได้มีโอกาสชี้แจงและคณะกรรมาธิการฯ ได้ดำเนินการตามกลไกของกรรมาธิการ ให้รัฐบาลเร่งนำข้อสังเกตุในรายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯสู่การปฏิบัติเพื่อการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ท้ายสุด นายทนงศักดิ์ จรจัด ผู้ประสานงานอาสาสมัครผลักดันช้างจังหวัดจันทบุรี(สมาชิกเครือข่ายฯ) เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (1) สั่งให้กรมอุทยานฯ จัดทำและดำเนินการตามแผนนำช้างป่าออกจากพื้นที่ทำกิน กลับสู่ป่าอนุรักษ์และจัดทำแนวขัดขวางและแนวแจ้งเตือนการกลับออกมาของช้างป่า (2) จัดกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครผลักดันช้างป่า เฝ้าระวังและทำการผลักดันช้างป่ากลับเข้าป่าอนุรักษ์บริเวณชายขอบป่าและจัดงบประมาณกลางสนับสนุนค่าใช้จ่าย ดูแลสวัสดิการ อย่างเหมาะสม”  นายสุวิชาญ  กล่าว

และกล่าวต่อไปว่า   การที่รัฐบาลปล่อยปละละเลย ให้เกิดปัญหาช้างป่าอย่างยาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นตลอดเวลา

เกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยจากช้างป่า ถูกทำลายทรัพย์ ทำลายพืชสวนไม้ผล โดยไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐที่สะท้อนความเป็นจริง ทำให้ครอบครัวได้รับความทุกข์ยาก(ที่เรียกว่า "ตายทั้งเป็น) จึงจำเป็นต้องยกระดับการปกต้องตนเอง  การถูกช้างป่าทำร้ายบาดเจ็บและเสียชีวิต ก็อาจมีการต้องตอบโต้ที่รุนแรง 

ตนเชื่อว่า ความสูญเสียจะเกิดขึ้นมากขึ้น แต่เดิม คนถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตจำนวนมาก (ปี 2565 คนตาย 39 ศพ) แต่เมื่อคนหมดความอดทน ช้างป่าจะตายมากขึ้น จากการยกระดับการปกป้องตนเอง ตราบเท่าที่ที่รัฐยังไร้มาตรการการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม

ที่น่าตกใจ คือ คนในพื้นที่ประสบภัย เชื่อว่า ช้างป่าที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นช้างที่มีคนเอามาปล่อย เมื่อถูกทำร้าย ทำลาย ก็จะกล่าวหาว่า ช้างปล่อยทำร้ายพวกเขา จึงรู้สึกไม่พอใจ    ซึ่งเป็นความเชื่อที่ยากจะทำความเข้าใจ ทั้งที่ไม่มีโครงการนำช้างมาปล่อยป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดก็ตาม ดังนั้นการเร่งแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว จะเป็นการบรรเทาสถานการณ์นี้ได้ด้วย    นายสุวิชาญ  กล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า   วันนี้ ( 11 ต.ค.)   พ.ต.อ.วรานนท์ บุราณรมย์ ผกก.สภ.สนามชัยเขต นายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน ร่วมลงพื้นที่จุดเกิดเหตุจากการรับแจ้งพบช้างเสียชีวิตกลางป่า พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ ในที่เกิดเหตุ อยู่ห่างออกไปจากตัวชุมชน ประมาณ 2 กม. บริเวณป่ายูคาลิปตัส ใกล้เคียงป่าอ้อย และไล่มันสําปะหลัง ติดชายป่าบ้านโป่งเจริญ พื้นที่หมู่ที่ 12 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พบเจ้าหน้าที่อนุรักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สนามชัยเขต ทหารพรานที่1306 ผู้นำท้องถิ่นผู้ใหญ่บ้าน ยืนอยู่โดยรอบแนวชายป่า

ด้านในพบลูกช้างป่าเพศผู้วัยประมาณ 5-6 ปี สภาพนอนจมกองเลือด บริเวณที่งวงมีเลือดแดงเป็นลิ่มหน้าเวทนา เลือดทะลักออกจากปาก ลำตัวด้านบนใกล้เคียงศีรษะของลูกช้างป่า คุณหมอทีมสัตวแพทย์จากกระบกคู่ ลองเอากิ่งไม้เสียบไปตามรู จำนวน 9 รู คาดว่าทุกรูเกิดจากถูกเครื่องกระสุนปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ 

ขณะที่ พ.ต.อ.วรานนท์ บุราณรมย์ ได้สอบถามคุณหมอว่า ยังมีรอยรู อยู่ส่วนไหนของลูกช้างป่าอีกบ้าง คุณหมอ บอกว่ายังตอบไม่ได้เพราะมีร่องรอยบาดแผลเป็นรูอีกจำนวนมากทั้งด้านท้ายลำตัวขาหลังของลูกช้างป่า ต้องดำเนินการผ่าพิสูจน์ตามขั้นตอน

ต่อมา ทางหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ได้ประสานทางทีมสัตวแพทย์ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เคลื่อนย้ายลูกช้างป่า มาเตรียมผ่าพิสูจน์ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ขณะที่ทาง ผู้กำกับ สภ.สนามชัยเขต จัดตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่สืบหาผู้กระทำความผิด ด้วยสภาพลูกช้างป่าคล้ายถูกกระหน่ำยิงด้วยเครื่องกระสุนปืนไม่ทราบชนิดอย่างสุดเวทนามาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้ต่อไป  

ล่าสุดเวลา 22.15 น.   ผลการผ่าชันสูตรพบหัวกระสุนปืนเป็นแบบลูกซอง และ หัวกระสุนปืนขนาด 9 มม.ในซากช้างดังกล่าว ก่อนทำการฝังกลบต่อไป

โดย...มานิตย์  สนับบุญ - ข่าว/น้ำ  ทับอินทร์-ภาพ  / ปราจีนบุรี

***เครดิตภาพ – น้ำ  ทับอินทร์ ***