ดวลปืนสนั่นกลางพิธีทำบุญ 100 วัน ดับสลด 2 สาหัส 1

ดวลปืนสนั่นกลางพิธีทำบุญ 100 วัน ดับสลด 2 สาหัส 1





ad1

ตาก-ม้งเปิดศึกยิงกันสนั่น กลางพิธีทำบุญ 100 วัน ตาย 2 สาหัส 1 หลังอีกฝ่ายรู้ข่าวพ่อถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย จึงไม่พอใจ รวมพรรคพวกเพื่อจะไปเอาคืน แต่กลับไปเจอกันที่ร้านค้าก่อน จึงกระหน่ำยิงทั้ง 2 ฝ่าย

เมื่อเวลา 11.30 น วันที่  24 ก.ย. 2566 พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ตาก พ.ต.อ.วสันต์ ศิริกาญโกมล ผกก.สภ.วังเจ้า พร้อมด้วยชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุมีคนยิงกันเสียชีวิตที่ริมถนนภายในหมู่บ้าน หน้าบ้านเลขที่ 560 หมู่ที่ 4 บ้านวังทอง ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง

ที่เกิดเหตุเป็นพิธีทำบุญ 100 วันของชาวเขาเผ่าม้ง บริเวณหน้าบ้านพบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ isuzu สีขาว ทะเบียน 1 ขพ 538 กรุงเทพมหานคร สภาพรถด้านขวาพังยับเยิน กระจกมีรอยกระสุน 4 นัด กระจกแตกยับเยิน ใกล้กันมีรถกระบะ toyota สีขาว จอดอยู่ชนเข้ากับรถ toyota สีขาว สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ห่างจากทางเข้าหมู่บ้าน 2 ราย 

คือ นายศิลา แซ่ย่าง อายุ 25 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณขมับ 2 นัด หางคิ้วด้านซ้าย 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด ท้องด้านซ้าย 1 นัด รวม 3 นัด อาการบาดเจ็บสาหัส  เพื่อนบ้านที่ประสบเหตุนำส่งโรงพยาบาลบางเจ้า เจ้าหน้าที่ต้องส่งไปยัง โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ส่วนรายที่ 2 คือ นายชาตรี ทรงยุทธ ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัว 2 นัด หลังถูกยิงเพื่อนๆ พาขึ้นรถหลบหนี 

ห่างไปประมาณ 600 เมตร พบศพ นายชรพงษ์ ทรงยุทธ อายุ 50 ปี นอนเสียชีวิต สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืดสีขาวแขนสั้น มีบาดแผลถูกปืน 9 มม. เข้าที่บริเวณขมับขวา 1 นัด หน้าอก หน้าท้องและแขน รวม 7 นัด เสียชีวิตคาที่  สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายชรพงษ์และนายศิลามีปากเสียงกัน  ทะเลาะกันโดยไม่ทราบสาเหตุ พอทราบถึงนายชาตรี ซึ่งเป็นลูกของนายชรพงษ์จึงตามมาเคลียร์ปัญหา แต่ตกลงกันไม่ได้ ทำให้ทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง จนกระทั่งมีการชกต่อยกันเกิดขึ้น นายชาตรีพร้อมเพื่อนที่มาด้วยกันรุมต่อยนายศิลาจนเลือดออก

นายศิลาสู้ไม่ได้ จึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงเปิดทางหลบหนี วิ่งไปหน้าบ้านงานศพ นายชาตรีจึงขับรถยนต์ตามนายศิลาไปที่บ้านงานศพ พร้อมกับใช้ปืนยิงออกจากในตัวรถ ยิงออกมาประมาณ 5 นัดนายศิลาก็ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ ทำให้รถของนายชาตรีเสียหลักพุ่งชนนายศิลาอย่างจัง เป็นเหตุให้ปืนนายศิลาหล่นลงกับพื้น นายศิลาก็ล้มลง นายชาตรีเปิดประตูรถออกมากระทืบซ้ำ และจ่อยิงอีก 3 นัด ก่อนขึ้นรถหลบหนีไป ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็นำร่างของนายศิลาส่งโรงพยาบาลวังเจ้า

ส่วนนายชาตรีที่ถูกยิงก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลวังเจ้าเหมือนกัน ขณะนี้ทั้งสองอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยทั้งสองฝ่ายอย่างใกล้ชิด และนายศิลาได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุ นายเย่ง แซ่ย่าง อายุ 50 ปี พ่อของนายศิลา กำลังอยู่ช่วยบ้านงานศพ เห็นเหตุการณ์ว่าลูกชายถูกทำร้ายและยิงต่อหน้า จึงเอาปืนขนาด 9 มม. ที่ตนเองแอบพกติดตัวมา มุ่งหน้ามาหาคู่กรณีที่บ้านพัก มาเจอนายชรพงษ์  ทรงยุทธ พ่อของนายชาตรี สวมเสื้อสีขาว กำลังเดินอยู่บนถนนบริเวณสามแยกหน้าปากซอยบ้านของนายชรพงษ์ จึงเอาปืนกระหน่ำยิงนายชรพงษ์ จำนวน 7 นัด เข้าที่บริเวณศีรษะและลำตัวจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดชุดสืบสวนไล่ติดตามคนร้ายอย่างกระชั้นชิด ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เส้นทางหลบหนีออกจากนอกพื้นที่ไปแล้ว

สำหรับสาเหตุความแค้นนั้นเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายศิลาพร้อมเพื่อนนั่งกินเหล้า บริเวณหน้าบ้านเช่าของเพื่อน ซึ่งอยู่ปากซอยบ้านนายชรพงษ์ เปิดเพลงเสียงดัง นายชรพงษ์เลยเดินมาต่อว่าโวยวาย และเอาก้อนหินปาใส่วงเหล้าวัยรุ่น กลุ่มวัยรุ่นจึงมาต่อยนายชรพงษ์ จนคิ้วแตกตาบวม และแยกย้ายกันไป นายชาตรีทราบเรื่องที่พ่อถูกทำร้าย จึงได้รวบรวมพรรคพวก เดินทางมาด้วยรถกระบะสีขาวและสีดำรวม 2 คัน และนัดนายศิลา เพื่อจะเคลียร์ปัญหา และมาเจอนายศิลาจอดรถซื้อของที่ร้านค้า จึงจอดรถลงมารุมชกต่อย จากนั้นโดนนายศิลาใช้อาวุธปืนยิง อีกฝ่ายก็เอาปืนยิงต่อสู้กัน นายศิลาสู้ไม่ไหวก็วิ่งหนี ก่อนจะถูกนายชาตรีใช้รถกระบะสีขาวขับไล่ตาม พร้อมกับยิงปืนไล่หลัง และลงมายิงซ้ำก่อนหลบ.