ททท.ดันมวยไทย"Soft Power"ระดับโลก บูมท่องเที่ยว

ททท.ดันมวยไทย"Soft Power"ระดับโลก บูมท่องเที่ยว





ad1

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือสนามมวยเวทีราชดำเนิน จัดศึก Amazing Muaythai, Road To  Rajadamnern ซึ่งเป็นศึกมวยไทยนานาชาติใน 4 เมืองใหญ่ของโลกเพื่อเฟ้นหา นักชกดาวรุ่งจากนานาชาติ และเปิดโอกาสให้นักกีฬาจากทั่วทุกมุมโลก มีโอกาสได้มาแข่งขันที่เวทีอันทรงเกียรติที่เป็นความฝันสูงสุดของนักกีฬามวยไทย เวทีที่เป็นบ้านเกิดของมวยไทย ณ สนามมวยเวทีราชดำเนิน ในปลายปีนี้

ททท. ได้ดำเนินการสื่อสารการตลาดส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย 2566 (Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters) เดินหน้าส่งมอบคุณค่า และความหมายของการท่องเที่ยวไทย (Meaningful Travel) ผ่าน Soft Power ภายใต้ธีม 5F (Food Fashion Film Fight และ Festival) และการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย เน้นจุดขายที่แตกต่างในเรื่อง Soft Power ซึ่งประกอบด้วย  Food (อาหาร) Fashion (แฟชั่น) Fight (ศิลปะการต่อสู้ มวยไทย) Festival (เทศกาล ประเพณี) และ Film (ภาพยนตร์)

ซึ่ง F-Fight คือศิลปะการต่อสู้ มวยไทย เป็นศิลปะวัฒนธรรมการต่อสู้และถือเป็นกีฬาประจำชาติ ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่าง“มวยไทย” ก็สามารถสร้างการรับรู้และเป็นกระแสนิยม ดึงดูดความสนใจแก่กลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ ให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ จึงได้ริเริ่มจัดการแข่งขันมวยไทยนานาชาติภายใต้ชื่อ Amazing Muaythai, Road To  Rajadamnern เพื่อสร้างการรับรู้และความพร้อมของประเทศไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวในปี 2566  ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและกลุ่มท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้อยากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

"แบงค์"เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานบริหาร บ. โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส(GSV) และกรรมการบริหารของเวทีมวยราชดำเนิน

ทั้งนี้ ททท. ได้ร่วมมือกับสนามมวยเวทีราชดำเนิน ซึ่งเปรียบได้กับ “บ้านของมวยไทย” และเป็นสนามมวยที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดของโลก จัดรายการพิเศษขึ้นมาเพื่อเฟ้นหานักมวยไทยนานาชาติดาวรุ่งฝีมือดี มาประชันฝีมือรอบสุดท้ายกับสุดยอดนักมวยไทย ณ เวทีราชดำเนินที่เป็นความฝันสูงสุดของนักกีฬามวยไทยทุกคน

โดยรูปแบบการจัดแข่งขันจะจัดขึ้นใน 3 เวที 2 ประเทศ โดยเวทีแรกจะจัดชกขึ้นที่ เมืองเตรนชีนสาธารณรัฐสโลวัก ในวันที่ 23 กันยายน  2566 เวทีที่สองจัดขึ้นที่เมืองโยโกสุกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 สนามที่สามจัดขึ้นที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ใน 3 เวทีดังกล่าวจะมีการคัดนักมวยที่มีฝีมือดีที่สุดเพียง 4 คนเท่านั้นมาชกรอบสุดท้ายในศึก Amazing Muaythai, Road To  Rajadamnern ที่สนามมวยเวทีราชดำเนิน ในเดือนธันวาคม 2566 นี้  โดยจะเจอกับ 4 สุดยอดนักมวยของไทย และผู้ชนะจะสามารถประกาศต่อทั่วโลกได้ว่าเป็นนักมวยระดับสุดยอดอย่างแท้จริง และยังมีโอกาสกลับมาประชันฝีมือที่สนามมวยเวทีราชดำเนิน อีกครั้ง

ทางด้าน"แบงค์" เธียรชัย  พิสิฐวุฒินันท์ ประธานบริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส หรือ GSV และกรรมการบริหารของเวทีมวยราชดำเนินกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ ททท. เลือกสนามมวยเวทีราชดำเนิน เป็นสถานที่จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์สำหรับคนไทยและทั่วโลกและรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ททท. เล็งเห็นคุณค่าของมวยไทยซึ่งคือมรดกของคนไทยทุกคนและเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่ต้องการนำเสนอให้กับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติทั่วโลกได้สัมผัส

นายเธียรชัยกล่าวว่า สนามมวยเวทีราชดำเนิน คือสนามมวยที่มีอายุมากที่สุดในโลก คือบ้านของมวยไทย นอกจากนั้นแล้วที่เวทีราชดำนิน รายการมวยที่จัดชกขึ้นยังคงเอกลักษณ์ความเป็นมวยไทยไว้อย่างครบถ้วน นักมวยทุกคู่จะมีการไหว้ครูก่อนชก มีเสียงดนตรีวงปี่มวยบรรเลงอยู่ข้างเวทีตลอดการชกทุกคู่ ส่วนสนามมวยราชดำเนินก็ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นสนามมวยที่สวยงาม มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น และพร้อมต้อนรับนักมวยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาชมและเชียร์ในศึก Amazing Muaythai, Road To