ตามรวบหนุ่มกระเหรี่ยงลวงขายไม้พะยูงข้ามชาติหนีคดีเกือบ 10 ปี มูลค่าเสียหายกว่า 1.7 ล้านบาท

ตามรวบหนุ่มกระเหรี่ยงลวงขายไม้พะยูงข้ามชาติหนีคดีเกือบ 10  ปี มูลค่าเสียหายกว่า 1.7 ล้านบาท





ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายวิฑูรย์ ฯ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดแม่สอด สภ.แม่สอด จ.ตาก ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์” สถานที่จับกุม ริมถนนบางศรีเมืองต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พฤติการณ์ นายวิฑูรย์ ฯ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นชาวกระเหรี่ยงเกิดและอยู่อาศัยที่จังหวัดราชบุรี จนได้สัญชาติไทย เมื่อปี พ.ศ.2552 ก่อนจะรู้จักและคบค้าสมาคมกับชาวกระเหรี่ยงและทหารชนกลุ่มน้อยบริเวณชายแดนแม่สอดจังหวัดตาก จนเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่านายวิฑูรย์ฯ เป็นพ่อค้าไม้ สามารถนำเข้าไม้ต่างๆ ตามที่ต้องการได้

ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2557 ผู้เสียหาย มีความต้องการไม้พะยูงขนาดใหญ่จำนวนหลายต้น และทราบข่าวว่านายวิฑูรย์ฯ สามารถหาไม้พะยูงและนำเข้าไม้พะยูงมาให้ตนได้ จึงมาพบเพื่อตกลงซื้อขายและทำสัญญากับนายวิฑูรย์ฯ จากนั้นนายวิฑูรย์ฯ ได้แจ้งผู้เสียหายว่าต้องจ่ายเงินค่าไม้พะยูงเลย ผู้เสียหายจึงจ่ายเงิน จำนวน 1,000,000 บาท ให้กับนายวิฑูรย์ฯ ก่อนที่นายวิฑูรย์ฯจะบอกว่าต้องซื้ออุปกรณ์เพื่อใช้ในการตัดต้นไม้เพิ่มเติม ผู้เสียหายจึงซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมให้นายวิฑูรย์ฯ อีกกว่า 700,000 บาท

จากนั้นนายวิฑูรย์ฯ ได้พาผู้เสียหายนำอุปกรณ์การตัดไม้ไปมอบให้กับทหารชนกลุ่มน้อยที่บริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก  ผู้เสียหายเห็นว่านายวิฑูรย์ฯ รู้จักและคุ้นเคยกับทหารชนกลุ่มน้อยจริงยิ่งทำให้หลงเชื่อ กระทั่งเมื่อถึงเวลานัดรับไม้ ผู้เสียหายกลับติดต่อนายวิฑูรย์ฯ ผู้ต้องหา ไม่ได้ สอบถามคนในละแวกใกล้เคียง ทุกคนล้วนปฏิเสธ พร้อมบอกว่าไม่มีใครพบเห็นและติดต่อนายวิฑูรย์ฯ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก  ก่อนไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.แม่สอด จ.ตาก กระทั่งศาลจังหวัดแม่สอด ออกหมายจับนายวิฑูรย์ดังกล่าว

หลังจากเกิดเรื่องคดีความ นายวิฑูรย์ฯ ก็ได้ย้ายที่พักอาศัยต่อเนื่อง เพื่อหลบหนีการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเวลาเกือบ 10 ปี ก่อนที่ตำรวจกองปราบปรามจะสืบทราบว่าหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี กระทั่งเฝ้าติดตาม สังเกตการณ์ จนพบผู้ต้องหา จึงเข้าจับกุมตัว ก่อน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป