ยูเอ็นเผยชาวอาเซียนหลายแสนถูกลวงร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถูกระเมิดความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมว่า มีผู้คนจำนวนหลายแสนคนตกเป็นเหยื่อถูกกลุ่มอาชญากรรมบังคับให้ทำการหลอกลวงทางออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ คนเหล่านี้ได้กลายเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ให้เข้าไปทำงานในแวดวงของกลุ่มก่ออาชญากรรมออนไลน์ โดยพวกเขาต้องเผชิญกับการละเมิดอย่างร้ายแรง อาทิ การทรมานหรือความรุนแรงทางเพศ

นายโฟลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็น กล่าวว่า ผู้คนที่ถูกบังคับให้เข้าร่วมขบวนการหลอกลวงเหล่านี้ต้องทุกข์ทรมาณกับการปฏิบัติที่ไร้มนุษยธรรม ขณะที่ถูกบังคับให้ก่ออาชญากรรม คนเหล่านั้นคือเหยื่อไม่ใช่อาชญากร

อย่างไรก็ดี เป็นเรื่องยากที่จะระบุถึงขนาดของปัญหาดังกล่าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากการก่ออาชญากรรมเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างลับๆ ขณะที่การรับมือของทางการก็ยังมีช่องว่าง

ขณะที่แหล่งข่าว ระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 120,000 คนทั่วประเทศเมียนมา ที่อาจถูกควบคุมตัวในสถานการณ์ที่ถูกบังคับให้ทำการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยที่คาดว่ามีผู้คนในประเทศกัมพูชาราว 100,000 คนถูกบังคับให้ทำงานในลักษณะเดียวกัน

เช่นเดียวกับ ลาว ฟิลิปปินส์ และไทย ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ถูกระบุว่าเป็นประเทศปลายทางหรือทางผ่านหลัก โดยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมาจากทั่วอาเซียน จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน เอเชียใต้ และไกลออกไปจากแอฟริกาและลาตินอเมริกา

ยูเอ็น ระบุอีกว่า ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อซึ่งถูกบังคับให้เข้าสู่การหลอกลวงออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แต่ก็มีผู้หญิงและวัยรุ่นที่ตกเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน และออนไลน์สแกมสามารถสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี