บก.ปอท.บุกรวบหนุ่มเปิดบริษัทฯหลอกแรงงานต่างด้าว กว่า 50 ราย ต่อวีซ่าสูญกว่า 1.2 ล้าน

บก.ปอท.บุกรวบหนุ่มเปิดบริษัทฯหลอกแรงงานต่างด้าว กว่า 50 ราย ต่อวีซ่าสูญกว่า 1.2 ล้าน





ad1

บก.ปอท.บุกรวบหนุ่มเปิดบริษัทฯหลอกแรงงานต่างด้าว กว่า 50 ราย ต่อวีซ่าทำงานในไทย มูลค่าความเสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท
 
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุมตัว  1. นายเศกสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครปฐม ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมเอกสารราชการ, ฉ้อโกง”

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านพักย่าน รังสิต-คลองสอง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณช่วงต้นปี 2566 ได้มีบริษัทฯ รับทำเอกสารแรงงานต่างด้าวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ได้แอบอ้างว่าสามารถจัดทำพาสปอร์ตและวีซ่าสำหรับแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทยได้ จนมีผู้เสียหายซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่มีความประสงค์จะทำพาสปอร์ตและวีซ่าการทำงานให้กับแรงงานของตนกว่า 50 ราย ได้ยื่นเรื่องกับบริษัทฯ ดังกล่าว

โดยบริษัทฯ ดังกล่าวได้เรียกเก็บเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการ รายละ 25,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 1,200,000 บาท และยืนยันกับผู้เสียหายที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างว่าจะแรงงานต่างด้าวทั้งหมดจะได้รับเอกสารการทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมายภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ต่อมา บริษัทฯ ดังกล่าวได้นำพาสปอร์ตและวีซ่าสำหรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมาส่งมอบให้กับผู้เสียหาย แต่ปรากฎว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ปลอมขึ้นมาทั้งหมด เมื่อนำไปยื่นกับทางราชการก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นเอกสารปลอม ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว

และตรวจสอบกลับไปยังบริษัทฯดังกล่าว พบว่ามี นายเศกสิทธิ์ฯ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฯ มีพฤติกรรมในลักษณะหลอกลวงกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีแรงงานต่างด้าวอยู่ในความดูแลมากๆ โดยกล่าวอ้างว่าตนเองสามารถจัดทำเอกสารเพื่อให้แรงงานต่างด้าวสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายหลังจากการสืบสวนและติดตามตัวผู้ต้องหา พบว่ามีพฤติการณ์หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุญาตต่อศาลจังหวัดนครปฐม เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ นายเศกสิทธิ์ฯ ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 362/2566 ลง 6 ก.ค.66

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ได้รับการประสานให้ช่วยสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว เนื่องจากการกระทำในลักษณะดังกล่าว นอกจากจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้รับเหมาซึ่งเป็นคนไทยแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อแรงงานต่างด้าว ที่มีความต้องการจะเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่มาถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์สิน และยังมีความเสี่ยงที่อาจจะตกเป็นผู้ต้องหาในการใช้เอกสารราชการปลอมอีกด้วย

ภายหลังจากการสืบสวนติดตาม พบว่านายเศกสิทธิ์ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพัก ในพื้นที่รังสิต-คลองสอง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณบ้านพักหลังดังกล่าว จนกระทั่งพบตัว นายเศกสิทธิ์ฯ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 14.00 น. จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้นายเศกสิทธิ์ฯ ตรวจสอบ  ยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. จึงทำการจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่าตนเองเปิดบริษัทฯ ทำเกี่ยวกับหนังสือเดินทางและต่อวีซ่าจริง แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดในระยะเวลาการเปิดให้ต่อวีซ่า ประกอบกับจำนวนบุคคลต่างด้าวที่ต้องการทำหนังสือเดินทางและต่อวีซ่า มีเป็นจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ ทำเอกสารไม่ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายดังกล่าว ส่วนกรณีการจัดทำเอกสารปลอมผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ