กอ.รมน.อ้าง แนวร่วม ผกร. ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือบ่มเพาะสร้างความแตกแยกและเกลียดชังรัฐ

กอ.รมน.อ้าง แนวร่วม ผกร. ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือบ่มเพาะสร้างความแตกแยกและเกลียดชังรัฐ





ad1

เมื่อวันที่  26 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีการเดินขบวนพาเรด ของน้องๆตาดีกา เพื่อจัดแข่งขันกีฬาและจัดกิจกรรมต่างๆประจำปีภาคเวทีประจำตำบล แต่กลับเป็นไวรัลสำหรับขบวนพาเรดที่ชุมชนบ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ที่นำภาพถ่ายสมาชิก ผู้ก่อความไม่สงบที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐวิสามัญเสียชีวิตที่ผ่านมาให้เด็กเยาวชน เด็กตาดีกาถือร่วมในขบวนพาเรดดังกล่าว จึงถูกวิพาจณ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งเห็นด้วยและที่ไม่เห็นด้วย

ล่าสุด กอ.รมน.ได้ระบุว่าตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านน้ำบ่อ อำเภอปะนาแระ จังหวัดปัตตานี ได้จัดงานเชิงสัญลักษณ์ตาดีกาสัมพันธ์ตำบลบ้านน้ำบ่อขึ้นเมื่อวันที่ 22 และ 23 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา และต่อมาได้ปรากฎภาพเยาวชนชาย – หญิง อายุประมาณ 7 – 8 ขวบหลายคน แต่งกายด้วยชุดมลายูท้องถิ่น เดินถือรูปผู้ก่อเหตุรุนแรงซึ่งเสียชีวิตจากการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ปะปนไปกับขบวนพาเหรดในลักษณะของการเชิดชูเกียรติผู้เสียชีวิต ทันทีที่ภาพดังกล่าวได้แพร่กระจายออกไปทางสื่อต่างๆ ได้ถูกวิพากวิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง ถึงความไม่เหมาะสมของกลุ่มผู้จัดกิจกรรม ที่นำเอาเด็กและเยาวชนมาเป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งในสังคม อีกทั้งการกระทำดังกล่าวสื่อให้เห็นถึงความพยายามในการบ่มเพาะปลูกฝังเยาวชนให้มีความรู้สึกต่อต้านและเกลียดชังรัฐในอนาคต

 ภายหลังทราบเหตุ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่จัดการประชุมคณะกรรมการผู้จัดงาน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วน เพื่อหาสาเหตุและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำในครั้งนี้ โดยหลังจากนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะเชิญบุคคลและกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมมาประชุมเพื่อกำหนดมาตรการในการดำเนินการที่เหมาะสม

รวมทั้งหามาตรการในการป้องกันการจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวต่อไปในอนาคต ทั้งนี้การนำเยาวชนมาเป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งนับได้ว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเป็นอย่างยิ่งของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ รวมทั้งยังอาจเข้าข่ายละเมิดต่ออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่จัดทำขึ้นโดยสหประชาชาติในหัวข้อการคุ้มครองเด็กจากการกระทำที่ไม่เหมาะสมทั้งปวง อีกด้วย