8 พรรคร่วมมอบเพื่อไทยเสนอชื่อ “พิธา” วันโหวตนายกฯ ชงเพิ่มประชุมสภาเป็น 3 วัน

8 พรรคร่วมมอบเพื่อไทยเสนอชื่อ “พิธา” วันโหวตนายกฯ ชงเพิ่มประชุมสภาเป็น 3 วัน





ad1

“หมอชลน่าน” เผย ที่ประชุม 8 พรรคร่วม ชงเพิ่มประชุมสภาฯ เป็น 3 วัน อังคาร-พุธ-พฤหัสฯ พร้อมมอบหน้าที่ให้พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ “พิธา” ในวันโหวตนายกฯ ยัน อยากให้ผ่านตั้งแต่รอบแรก

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังการประชุม 8 พรรคร่วม ว่า มีข้อสรุปที่สำคัญ ดังนี้ เรื่องแรก การประชุมสภาผู้แทนราษฎรและการประชุมรัฐสภา โดยการประชุมสภาฯ ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 จะมีการประชุมกำหนดสมัยประชุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องกำหนดการประชุมสมัยที่ 2 ต้องมีการเสนอประธานวิปว่าเห็นด้วยหรือไม่ โดยเราเสนอว่าสมัยประชุมสมัยแรก ตามรัฐธรรมนูญ กำหนดตามวันพระราชพิธี คือ เริ่มตั้งแต่ 3 กรกฎาคม-30 ตุลาคม เมื่อได้ประชุมสมัยที่ 1 แล้ว สมัยที่ 2 จะเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะกำหนดว่าจะเริ่มประชุมวันไหน ซึ่งทาง 8 พรรคร่วมเห็นว่า การประชุมสมัยที่ 2 น่าจะเริ่มวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ส่วนทางวิปจะเห็นด้วยหรือไม่ก็อยู่ที่การพิจารณา

ส่วนสิ่งที่จะมีการเปลี่ยนแปลง คือ 8 พรรคร่วม มีข้อเสนอเพิ่มวันประชุมสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จากเดิมประชุมทุกวันพุธและวันพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์ และมีวาระพิเศษ แต่หลังจากนี้จะกำหนดเป็นวาระประจำคือ เพิ่มวันอังคารอีก 1 วัน เริ่มเวลา 13.00 น. ซึ่งการประชุม 3 วันนี้ เป็นระเบียบวาระปกติ แต่วันอังคารจะเน้นพิจารณากฎหมายที่สมาชิกและภาคประชาชนได้เสนอมา ส่วนวันพุธ เป็นการพิจารณากฎหมาย คณะรัฐมนตรี (ครม.) และวันพฤหัสบดี เป็นการพิจารณากระทู้ ญัตติ

สำหรับการประชุมในวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 คือการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า มติของ 8 พรรคร่วมมีความชัดเจนที่จะสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนเสนอชื่อ นายพิธา ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา จากนั้นจะเปิดให้สมาชิกมีข้อซักถาม เกี่ยวกับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อแล้วจึงจะเข้าสู่การโหวต

เมื่อถามว่าในที่ประชุมมีการพูดถึงเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน บอกว่า ก็มีการสอบถามกัน และ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ตอบคำถามว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนความพยายามที่จะประสานเสียงของ ส.ว. ให้มากที่สุด แต่ไม่ได้ระบุว่าได้เท่าไหร่แล้ว

ขณะที่กรณีหากโหวตนายกรัฐมนตรีไม่ผ่านในวันแรกห่วงว่าจะมีการชุมนุมหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เรื่องนี้ที่ประชุมไม่ได้หยิบยกมาพูดคุย แต่มีเรื่องแจ้งให้ทราบว่าวันที่ 13 กรกฎาคม ทางรัฐสภาจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาร่วมรับฟัง โดยจัดสถานที่ให้บริเวณวัดแก้วฟ้าจุฬามณี เป็นหลัก ซึ่งอาจมีการขออนุญาตปิดถนนด้วย 

นอกจากนี้ ที่หลายฝ่ายมองว่ายิ่งมีการชุมนุมก็จะยิ่งเหมือนเป็นการกดดันทาง ส.ว. และ ส.ส. ที่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็น ทางพรรคร่วมรัฐบาลมีการพูดคุยเรื่องนี้กับพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน ตอบว่า ไม่ได้มีการนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น เนื่องจากการออกมาชุมนุมเรียกร้องเป็นสิทธิของประชาชน ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมายและเป็นไปตามสิทธิและเสรีภาพ จึงคิดว่าสามารถเป็นไปได้เพราะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย