ชาวบ้านเกือบยกหมู่บ้านแห่แจ้งความถูกเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินเรียกเงินหลอกออกโฉนด


วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ที่ สภ.เมืองพิจิตร พ.ต.ต. พิษณุพล ยอดกระโหม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิจิตร พนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งความจากชาวบ้าน โดย นายวิเชียร คำเขียน อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร เป็นตัวแทนและแกนนำชาวบ้านทั้งหมดรวม 26 ราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า ตนเองและพวกเป็นเกษตรกร ซึ่งมีที่ดินอยู่ในความครอบครอง ซึ่งส่วนใหญ่มีเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3.ก ซึ่งก็ได้รับรู้ข่าวสารว่าทางราชการและนโยบายของรัฐบาล ว่า จะมีการเดินสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิ์จาก นส.3.ก ให้เป็นโฉนดที่ดิน ชาวบ้านจึงไปติดต่อที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร ซึ่งตั้งอยู่ที่ภายในบริเวณศาลากลางพิจิตรหลังเก่า จากนั้นก็ได้ขึ้นไปบนชั้น 2 ของสำนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร ซึ่งก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่และนายช่างรังวัดที่ดินหลายคนที่ได้เข้ามาพูดคุยให้คำแนะนำถึงเรื่องการออกรังวัดที่ดินเพื่อที่จะได้ออกเอกสารสิทธิ์จาก นส.3.ก เป็นโฉนดที่ดิน
จากนั้นเมื่อประมาณเดือน เม.ย. 65 เป็นต้นมา ก็ได้มี ช่างพงษ์ นายช่างรังวัดปฏิบัติงาน เข้าไปติดต่อเจรจาว่า ถ้าจะให้มีการเดินสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิ์จาก นส.3.ก ให้เป็นโฉนดที่ดิน ได้เร็วได้ชัวร์และจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆนาๆ มีตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท ตามจำนวนพื้นที่ดินที่ต้องการออกโฉนด ซึ่งก็มีบางรายที่มีที่ดินแปลงใหญ่ก็ได้จ่ายไป 20,000-30,000 บาท เมื่อจ่ายเงินแล้ว ต่างก็เฝ้าทวงถามว่าเมื่อไหร่จะออกมารังวัดที่ดินให้ และเมื่อไหร่จะได้โฉนดที่ดินเสียที ช่างพงษ์ นายช่างรังวัดปฏิบัติงาน ก็พูดผลัดวันประกันพรุ่ง ไปหาที่ สนง.ที่ดิน ก็ไม่เจอตัว โทรศัพท์ติดต่อก็ไม่รับสาย ไม่ยอมโทรกลับมาพูดคุยเจรจาหนีหายเข้ากลีบเมฆ
ชาวบ้านจึงจับกลุ่มพูดคุยกันถึงได้รู้ว่าในหมู่บ้านของตน มีจำนวนถึง 26 รายที่ถูก นายช่างรังวัดที่ดินผู้นี้เรียกรับเงินไปยอดรวมมากถึง 187,000 บาท อีกทั้งก็ทราบข่าวว่า นอกจากนี้ก็ยังมี นางสนิท กะโห้ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 หมู่ 4 ต.สายคำโห้ อ.เมืองพิจิตร ที่ไปร้องทุกข์กับสื่อมวลชนและไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิจิตร ออกเป็นข่าวในท้องถิ่นว่าก็สูญเงินไป 27,000 บาท โดยมีหลักฐานเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีของ นายช่างรังวัดที่ดินคนนี้ อีกด้วย พวกชาวบ้านของ ต.ป่ามะคาบ จึงรวมตัวและตัดสินใจพากกันมาแจ้งความที่ สภ.เมืองพิจิตร ดังกล่าว
ในส่วนของ นายแสงชัย ธนพาณิชย์วัฒนา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า... ช่างพงษ์ นายช่างรังวัดปฏิบัติงาน ผู้นี้ ตนเองทราบเรื่องความประพฤติดังกล่าวมาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งได้ตั้งกรรมการสอบวินัย โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 66 ให้งดการปฏิบัติหน้าที่ในการออกรังวัดที่ดินของราษฎรตามโครงการออกโฉนดที่ดิน โดยให้เคลียร์เอกสารงานที่คั่งค้างอยู่ 20 รายการ ให้แล้วเสร็จ แต่ นายช่างรังวัดคนนี้ ก็เข้ามาเซ็นต์ชื่อแล้วก็หนีหายหน้าเป็นแบบนี้ประจำ ต่อมาก็มีชาวบ้านมาร้องว่า นายช่างรังวัดคนนี้ ไปเรียกรับเงินใต้โต๊ะจนเป็นเรื่องหลายครั้งในฐานะที่เป็นผู้บังบัญชาก็ทำการอบรมสั่งสอน โดยให้หาเงินไปคืนผู้เสียหาย แต่ด้วยเพราะมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก นายช่างรังวัดคนนี้จึงไม่มีเงินที่จะไปใช้คืน จนกลายเป็นดินพอกหางหมูยากเกินกว่าจะเยียวยาแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันงานที่ผ่านมา นายแสงชัย ธนพาณิชย์วัฒนา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร จึงได้รายงานด้วยวาจาไปยัง นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าฯพิจิตร ว่าจะเสนอลงโทษทางวินัยร้ายแรงให้ไล่ออก
นายแสงชัย ธนพาณิชย์วัฒนา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพิจิตร กล่าวย้ำว่า การเดินสำรวจรังวัดเพื่อออกโฉนดที่ดินนั้นเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นหากจะมีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมต้องเป็นการจ่ายเงินที่แผนกการเงินของ สนง.ที่ดินจังหวัดพิจิตร และต้องมีใบเสร็จออกให้เป็นหลักฐานเท่านั้น จึงจะถือว่าเป็นการจ่ายเงินที่ถูกต้อง แต่ถ้าหากมีการไปจ่ายเงินกันเองนอกสำนักงานเพื่อกรณีใดๆก็ตาม ให้มีลางสังหรณ์ไว้ได้เลยว่าท่านกำลังถูกหลอกเหมือนอย่างเช่นกรณีดังกล่าวข้างต้น
โดย... สิทธิพจน์ เกบุ้ย จังหวัดพิจิตร