งามไส้!รุมสับยับจวกแหลก 6 กกต. แห่ดูงานต่างประเทศ ไม่เหมาะสม ใช้งบสูงลิ่ว

งามไส้!รุมสับยับจวกแหลก 6 กกต. แห่ดูงานต่างประเทศ ไม่เหมาะสม ใช้งบสูงลิ่ว





ad1

รุมสวดยับ 6 กกต. แห่ดูงานต่างประเทศ ไม่เหมาะสม ใช้งบสูงลิ่ว ช่วงสำคัญก่อนเลือกตั้ง นัดประชุมอีกครั้งปลายเดือน ด้าน“องอาจ” ซัด ไม่เหมาะสม กกต. ดูงานต่างประเทศ ชี้มีเรื่องต้องทำมากกว่า ควรเอาเวลามาป้องกันทุจริต-ซื้อเสียงการเลือกตั้งในประเทศจะดีกว่า

 จากกรณีขณะนี้มีกระแสเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัยนโยบายหาเสียงประชานิยมของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าทำได้หรือไม่ รวมทั้งมีข้อเรียกร้องให้ กกต.พิจารณาขยายระยะเวลาการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเพิ่มเติม เนื่องจากวันสุดท้ายของการลงทะเบียนเกิดปัญหาระบบล่ม แต่กลับมีรายงานว่า ขณะนี้ กกต.ทั้ง 6 คนเดินทางไปต่างประเทศ ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย

โดย กกต.ทั้ง 6 ทยอยเดินทางไปดูงานเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา โดย นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ และ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี เดินทางไปประเทศฮังการีและสโลวาเกีย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เดินทางไปประเทศแอฟริกา นายปกรณ์ มหรรณพ เดินทางไปประเทศเยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ เดินทางไปสหรัฐอเมริกา และ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ เดินทางไปนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย และทั้งหมดจะเริ่มทยอยเดินทางกลับไทยตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.นี้ เป็นต้นไป

จากนั้น มีกำหนดนัดประชุม กกต.ครั้งต่อไปในวันที่ 25 เม.ย. หรือ 19 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. สำหรับการดำเนินการเรื่องขยายเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าคงทำได้ลำบาก เพราะไม่มีเวลาพอ รวมถึงการวินิจฉัยปัญหานโยบายของพรรคการเมืองที่หาเสียงไปแล้ว แม้ กกต.จะมองว่าหากมีเรื่องเร่งด่วน ก็สามารถใช้วิธีประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ได้ก็ตาม

อย่างไรก็ตามการเดินทางไปต่างประเทศดังกล่าว ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายใน กกต.เอง ถึงความเหมาะสม เนื่องจากในอดีตจะมีการมอบหมายให้ กกต.จำนวน 2-3 คนเท่านั้น ให้เดินทางไป เนื่องจากการไปต่างประเทศแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณสูง แต่ครั้งนี้ กกต.ทั้ง 6 คน เดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลาเดียวกันทั้งหมด

อีกทั้งการเดินทางยังอยู่ในช่วงขั้นตอนการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเพิ่งจะเสร็จสิ้น หากจะเดินทางไปก็ควรไปช่วงที่มีการส่งบัตรเลือกตั้งไปยังประเทศต่างๆ และกระจายบัตรไปยังผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ไว้ หรือช่วงเวลาที่สถานทูตกำหนดให้มาใช้สิทธิ์ จะมีเหตุผลและเป็นประโยชน์มากกว่า

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กรรมการ กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า การดูงานต่างประเทศ ของ กกต. ถูกที่ ถูกเวลา หรือไม่ ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง กกต.จะตั้งงบประมาณส่วนหนึ่งไว้สำหรับคณะกรรมการ สำหรับการไปตรวจ ติดตาม การจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร งบประมาณดังกล่าว ตั้งไว้สองขา คือ ที่ สำนักงาน กกต.เอง ส่วนหนึ่ง และตั้งฝากไว้ที่กระทรวงการต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้นอาจไม่เห็นตัวเลขทั้งหมดชัดเจนว่าเป็นยอดค่าใช้จ่ายรวมเท่าไร

การเลือกประเทศ เป็นเรื่องสำคัญ หากเลือกโดยเหตุผล ควรเลือกประเทศที่มีคนไทยมาก และคาดว่าจะมีปัญหาในการใช้สิทธิ เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ อิสราเอล ซาอุดีอาระเบีย มาเลเซีย หรือประเทศในตะวันออกกลางต่าง ๆ และสมควรไปในช่วงการใช้สิทธิเพื่อดูปัญหาที่เกิดขึ้น การไปสมควรสลับกันไป เพื่อให้มี กกต. เหลืออยู่ในประเทศอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ในกรณีที่มีปัญหาต้องวินิจฉัย อย่างน้อยจะได้มีผู้รักษาการตามกฎหมาย

กรณีที่ กกต. 6 คนไปต่างประเทศพร้อมกัน จึงเป็นประเด็นที่สังคมตั้งข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม เมื่อกลับมาแล้ว ควรชี้แจงต่อประชาชน ถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้น และตอบคำถามว่า ได้ช่วยให้คนไทยในต่างประเทศเข้าถึงการเลือกตั้งได้ดีขึ้น เช่น ได้ขอให้มีการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ เพิ่มขึ้น หากไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ ก็สมควรให้สังคมวิจารณ์

ก่อนหน้านี้ เกิดปัญหาระบบการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเกิดล่มในวันสุดท้าย ส่งผลให้มีเสียงเรียกร้องให้ กกต.เร่งนัดประชุมเพื่อขยายวันลงทะเบียน เหตุไม่ต้องการให้คนไทยเสียสิทธิ ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ และต่างประเทศ

นอกจากนี้มีเสียงวิจารณ์เรื่องการพิมพ์บัตรเลือกตั้งในระบบ ส.ส.แบ่งเขต ซึ่ง กกต.ตัดสินใจใช้ 'บัตรโหล' คือทุกเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต ใช้เหมือนกัน โดยมีเฉพาะเบอร์ แต่ไม่มีชื่อพรรคและโลโก้ ซึ่ง กกต.ให้เหตุผลส่วนหนึ่งว่า เพื่อประหยัดงบประมาณ ไม่ต้องพิมพ์บัตรแตกต่างกันทั้ง 400 เขต แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าไม่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน และอาจเป็นช่องทางในการทุจริตเลือกตั้งก็ตาม

ต่อมา นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กกต.ไม่ควรที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ควรที่จะอยู่ทำงานในประเทศ และพร้อมที่จะประชุม ตัดสินใจในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเลือกตั้งได้ ตนคิดว่าการไปดูงานต่างประเทศขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องความจำเป็นสูงสุดที่ต้องทำ และคิดว่า กกต .มีภาระหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำมากกว่า และจริงๆ แล้วการเลือกตั้งในต่างประเทศขณะนี้ ก็ไม่ใช่ความจำเป็นสูงสุดที่ กกต.ต้องไปดูงาน แต่ควรใช้เวลาดูเรื่องการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง ที่ต้องดำเนินการติดตามตรวจสอบการซื้อเสียง หรือการที่จะดำเนินการอะไรก็ตามที่อาจส่อไปในทางที่เกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง


ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย เขต 9 สงขลา ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน โดยระหว่างการเดินหาเสียง มีประชาชนมาบ่นเรื่องการลงใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้ ระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม ถามว่าเหตุเเบบนี้ใครควรรับผิดชอบ

"พวกเราจะใช้มาตรา 157 กับ กกต. ได้หรือไม่ เเนะนำประชาชนที่เสียสิทธิในครั้งนี้ไปขออาศัยบารมีศาลในการเพิกถอน กกต.ชุดนี้เลย กรณีนี้ กกต.รับผิดชอบอะไรบ้าง มีเเต่นิ่งเเละตีมึน ทำหน้างงๆ ทำงานเเบบนี้ขอเเนะนำว่าควรไปพักผ่อน เสียดายภาษีที่ประชาชนต้องจ่ายไป" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว