ตม.สงขลา ทลายแคมป์แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพื้นที่บางกล่ำจับ 33 ผู้ต้องหา ผู้นำพา-นายหน้า

ตม.สงขลา ทลายแคมป์แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพื้นที่บางกล่ำจับ 33 ผู้ต้องหา ผู้นำพา-นายหน้า





ad1

ตม.สงขลา ทลายแคมป์แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองภายในโกดังร้าง ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา จับ 33 คน ผู้นำพาและนายหน้าทั้งคนไทย และเมียนมาอีก 3 คน จับกุมได้เป็นครั้งที่ 3ในปี 66

เมื่อวันที่ 8 ก.พ.66 ภายใต้การสั่งการของพล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ ผกก.ตม.จว.สงขลา พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม.6 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จังหวัดสงขลา ร่วมกับชุดสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 ตำรวจ สภ.บางกล่ำ ตำรวจท่องเที่ยว และฝ่ายปกครองอำเภอบางกล่ำ จ.สงขลา ร่วมกันเข้าปิดล้อมตรวจค้นภายในโกดังร้าง เลขที่ 223 หมู่ 12 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา 

หลังจากที่ได้รับรายงานว่า ถูกใช้เป็นแคมป์พักพิงชั่วคราวของกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองที่นายหน้าพากักตัวเอาไว้เพื่อรอเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 33 คนทั้งหญิงและชาย ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยแรงงาน อายุระหว่าง 20-25 ปี พักอยู่ในห้องพักแยกกันระหว่างหญิงกับชายอย่างเป็นสัดส่วนและมีการทำอาหารเลี้ยงด้วย นอกจากนี้ยังได้ยึดรถตู้ทะเบียน นข 1825 สมุทรสาคร อีก 1 คัน ขณะที่ขนแรงงานต่างด้าวจำนวน 11 คน เข้ามาพักไว้ในโกดังร้างแห่งนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น

โดยทั้ง11 คนใส่เสื้อสีขาวเพื่อให้ดูกลมกลืนเป็นรถทัวร์ของนักท่องเที่ยว และจับกุมนายหน้าและผู้นำพาทั้งคนไทยและมาเลเซีย ได้อีก 3 คน ประกอบด้วย นายตาน ชิน ทุน อายุ 34 ปี นายอ่อง คาน เท อายุ 34 ปี ชาวเมียเมียน ซึ่งทำหน้าที่ดูแลสถานที่จัดหาอาหารที่พักและประสานงานให้นายหน้าอีกชุดมารับเพื่อเดินทางลักลอบเข้าประเทศมาเลเซีย และนายประเสริฐ อายุ 48 ปี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถตู้พาแรงงานต่างด้าว 11 คน มาพักไว้ที่โกดังแห่งนี้ แต่ยังไม่ทันหลบหนีถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ก่อน

จากการสอบสวนนายประเสริฐ รับสารภาพว่ารับจ้างขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาพักไว้ยังโกดังร้างแห่งนี้ 11 คน ได้ค่าจ้าง 12,000 บาท โดยให้สวมเสื้อสีขาวทุกคนเพื่อให้ดูเหมือนคณะทัวร์เลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนแรงงานต่างด้าว เปิดเผยว่า หลบหนีเข้าเมืองมาทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่ทราบพิกัดที่แน่นอน เพื่อเดินทางเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าประมาณ 4,5000 บาทต่อคน

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวแรงงานต่างด้าว และนายหน้าพร้อมของกลางรถตู้ 1 คัน และรถจักรยานยนต์1 คัน ส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางกล่ำ จ.สงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายหน้าและผู้นำพา 3 คน ทั้งคนไทยและเมียนมา ถูกแจ้งข้อหาความผิดฐาน ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนแรงงานต่างด้าว มีความผิดฐาน เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะเร่งสอบสวนขยายผลไม่ยังเครือข่ายค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติซึ่งยังคงพยายามลักลอบขนแรงงานเถื่อนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อลักลอบเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย

โดยในปีนี้เจ้าหน้าที่ ตม.สงขลา สามารถจับกุมแรงงานนต่างด้าวเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องกันในรอบ 2 เดือน โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มกราคม จับกุม 29 คน ซึ่งขนมากับรถตู้ติดตรากรมทางหลวง ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์จับได้ 30 คนขนมากับรถรั้วหรือรถคอกและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 จับ ได้คาแคมป์ที่พัก.