เปิดวิสัยทัศน์"ผู้ว่าฯปราจีนบุรี"สั่งแก้โขลงช้างป่ายึดที่ทำกินดันทำคูกั้นช้างเป็นสวนสัตว์เปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

เปิดวิสัยทัศน์"ผู้ว่าฯปราจีนบุรี"สั่งแก้โขลงช้างป่ายึดที่ทำกินดันทำคูกั้นช้างเป็นสวนสัตว์เปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่





ad1

ปราจีนบุรี–ผู้ว่าฯลุยแก้ไขช้างป่าแปดริ้ว นับ100ตัว(บวก)ยกโขลงยึดพื้นที่หากิน   ระบุขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่า    โดยพิจารณาทำคูกั้นช้าง หรือทำคูกั้นช้างเป็นสวนสัตว์เปิดเพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว ต่อไปเร่งด่วนให้ดำเนินการผลักดันช้างให้กลับคืนไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์

เวลา 20.00 น.10 ม.ค. 66ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานเพิ่มเติมว่า  กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ปราจีนบุรี( กอ.ปภ.จ.ปราจีนบุรี)   ได้รายงานสรุป  จากเหตุการณ์ตามที่มีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา ( ในผืนป่าราบต่ำแห่งสุดท้ายในป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี จ. ชลบุรี จ.ระยอง)    มากกว่า 100 ตัว    ได้เข้ามากินและทำลายพืชไร่  ประกอบด้วย  ไร่อ้อย  , ไร่มันสำปะหลัง,  นาข้าว กล้วย ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ตลอดจนทำลายกำแพงรั๊วบ้าน ,  ทำลายอาคารคอนกรีตซึ่งใช้เป็นที่เก็บข้าวเปลือก(ยุ้งฉางข้าว) นั้น

วันที่ 10 ม.ค. 66 เวลา 13.30 น. นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี    เป็นประธานการประชุม รับทราบปัญหาช้างป่าในพื้นที่ตำบลวังท่าช้าง และตำบลเขาไม้แก้ว  ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย    นางมาละนี จินดารัตน์ หน.สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี   นายสมเกียรติ สุสัณพูลทอง ทสจ.ปจ.   นางวัชราภรณ์ แตงหมี นายอำเภอกบินทร์บุรี    นายอำนาจ ม่วงปรางค์ ผู้แทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1   ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี   นายประยูร สมโภชน์ นายก อบต.เขาไม้แก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.เขาไม้แก้ว    น.ส.ภัทริน ภู่มณี นายก อบต.วังท่าช้าง พร้อมด้วยปลัด อบต.วังท่าช้าง และเจ้าหน้าที่   กำนันตำบลวังท่าช้าง   และ   ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4, 11 ต.วังท่าช้าง

ในการนี้นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และคณะ ออกตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่  ดังนี้
เวลา 15.30 น. ตรวจสอบพื้นที่ ที่ช้างป่ากว่า 100 ตัวขณะกำลังกินอ้อยในพื้นที่บ้านวังกวาง หมู่ที่ 11 ต.วังท่าช้าง โดยตรวจสอบภาพกลุ่มช้างป่าจากโดรนซึ่งถ่ายภาพในมุมสูง
 
ต่อมา เวลา 16.10  น. ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ช้างป่าทำลายกำแพงคอนกรีต 2 ด้าน ซึ่งเป็นบ้านของนางบุญจันทร์ ทองใส บ้านเลขที่ 308/1 หมู่ที่ 4 ต.วังท่าช้าง

จากนั้น  เวลา 16.50 น. ตรวจเยี่ยมประชาชนที่อาคารคอนกรีต(ยุ้งฉางข้าว)ที่ใช้เป็นที่เก็บข้าวเปลือก ตัวอาคารกำแพงพังเสียหายทั้งสองด้าน ข้าวเปลือกในยุ้งฉางข้าวได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ นายรณรงค์ นครจินดา  ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ประธานที่ประชุม ได้แจ้งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาช้างป่า ดังนี้

ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบทางราชการ   ,  ให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1และส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการผลักดันช้างให้อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์   ,  ขอให้ทุกส่วนราชการระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ผลักดันช้างป่า โดยพึงระลึกเสมอ ว่า " ช้างป่าทำอันตรายคนได้ แต่คนทำอันตรายช้างป่าไม่ได้ ตลอดจนต้องหามาตรการป้องกันช้างป่าและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า"   ,   ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่า โดยพิจารณาทำคูกั้นช้าง หรือทำคูกั้นช้างเป็นสวนสัตว์เปิดเพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว ต่อไป   ,  ขอให้ กอ.ปภ.จ.ปราจีนบุรี ประสานกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อหารือแนวทางการแด้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกทำลายบ้านเรือนประชาชน ทำลายพืชผลทางการเกษตร

จากการหารือในที่ประชุมฯจะเห็นได้ว่า พฤติกรรมของช้างป่าที่บุกรุกพื้นที่เกิดจาก ช้างป่ามีความต้องการหาอาหารใหม่ๆในพื้นที่ ได้แก่ อ้อย ข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ฯลฯ    ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่าโดยแจ้งผู้เข้าร่วมประชุมให้เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
    
มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี รายงาน