มือยิงนักท่องเที่ยวที่ผับ “ด่านนอก” ชายแดนไทย- มาเลเซีย มอบตัวอ้างอีกฝ่ายชักปืนก่อน

มือยิงนักท่องเที่ยวที่ผับ “ด่านนอก”  ชายแดนไทย- มาเลเซีย มอบตัวอ้างอีกฝ่ายชักปืนก่อน





ad1

จากกรณียิงกันที่บริเวณลานจอดรถข้างร้านลิเบอร์ตี้คลับ  สถานบันเทิงบ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมืองท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซีย เมื่อเวลา 02.00 น. เมื่อวัน 25 ธค. 65  ทำให้นายวีรยุทธ เรืองนุ่น อายุ 35ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่6 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช  ซึ่งไปเที่ยวที่ผับได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.4 นัด เข้าบริเวณลำคอ 2 นัด หลัง 1 นัด และหน้าท้อง 1 นัด โดยภาพจากล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะที่นายวีรยุทธ วิ่งหนีตายและถูกชาย 2 คน วิ่งถือปืนไล่ตามหลังไปติดติดรวมทั้งคนอื่นทั้งชายและหญิงที่วิ่งตามหลังไปด้วย และเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจใช้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ 

ล่าสุดพล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.พิชัย กิระวานิชรอง ผบก.จว.สงขลา, พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ก.จว.สงขลา พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.บก.สส.ภ.9, พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.สะเดา และ พ.ต.อ.บรรพต เดชมา ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.9, ได้ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าคดีหลังจากทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนภาค 9 ร่วมกันลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อมและตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลังจากที่ยิงกันซึ่งเป็นภาพที่นายวีรยุทธ วิ่งหนีตายและอีกถูกชาย2คนถือปืนวิ่งตามหลังมา

โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุที่วิ่งถือปืนไป 2 คน คือนายชัยรัช จุลศักดิ์ อายุ 39 ปี เป็นชาว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และนายกรณรากฤศ สุริยะโซดิ อายุ 33ปี โดยทั้ง 2 คน เป็นเจ้าของผับ จึงทำการรวบรวมพยานฐานหลักฐานและขออนุมัติศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับ และต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับทั้ง 2 คนฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันตั้งสถานบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต"

ต่อมาทั้งนายชัยรัชและนายกรณรากฤศ ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมอบตัวขอสู้คดี และแสดงความบริสุทธิ์ใจการก่อเหตุในคดีนี้ โดยนายชัยรัช ได้นำอาวุธปืน 9 มม.ที่ใช้ยิงซึ่งอ้างว่าใช้ยิงตอบโต้มามอบให้กับตำรวจด้วยส่วนนายกรณรากฤศ ก็นำอาวุธปืน 9 มม.ซึ่งอ้างว่าใช้ในการก่อเหตุ แต่ยังไม่ได้ยิงมามอบให้กับตำรวจ เช่นกัน   นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังยึดอาวุธปืนพกสั้นแบบกึ่งอัตโนมัติ  ขนาด .45 และกระสุนปืนขนาด 45 จำนวน 2 นัด ซึ่งเป็นปืนของนายวีรยุทธ คนที่ถูกยิงซึ่งทำตกไว้ในที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า มูลเหตุของคดีจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนซึ่งเป็นเจ้าของผับทราบว่ามาจากคนเจ็บพร้อมเพื่อนอีก 1 คน ได้มานั่งดื่มกินที่ร้าน จนกระทั่งร้านปิดบริการ แต่นายวีรยุทธ ต้องการนั่งต่อจึงได้เชิญให้ออกจากร้าน ทำให้นายวีรยุทธ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนักจนขาดสติ ไม่พอใจ จนเกิดการทะเลาะกันขึ้น และอ้างว่าอีกฝ่ายชักอาวุธปืนออกมาจะยิงก่อน จึงต้องยิงตอบโต้ไป โดยผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของร้านทั้ง 2 คน ก็รับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุยิงในคดีนี้จริง ส่วนนายวีรยุทธ คนเจ็บทราบว่า ขณะนี้อาการปลอดแล้ว ส่วนผับแห่งนี้ทราบว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตเปิดสถานบริการ จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันตั้งสถานบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย