"นายกฯ"เผยเจ็บปวดเห็น ปชช.ชาวสิงห์บุรี เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม

"นายกฯ"เผยเจ็บปวดเห็น ปชช.ชาวสิงห์บุรี เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม





ad1

สิงห์บุรี-“นายกรัฐมนตรี”พร้อมคณะลงพื้นที่ ลงเรือพบปะให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมสิงห์บุรี เผยเจ็บปวดหัวใจเห็นประชาชนเดือดร้อนจากภัยพิบัติ แต่ขออย่าไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554  เนื่องจากสิบกว่าปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ต.ค.2565 ที่จังหวัดสิงห์บุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคณะ ออกเดินทางไปยังวัดพิกุลทอง ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำและพบปะประชาชน ทั้งนี้ระหว่างเยี่ยมประชาชนในเต็นท์ที่มารอต้อนรับ โดยนายกฯ กล่าวว่า มาเยี่ยมเพราะรู้ว่าพวกเราเดือดร้อน ความคาดหวังของพวกเรา นายกฯ ก็เจ็บปวด ที่มาไม่ได้ทำเพื่ออะไรทั้งสิ้น ถือเป็นความเดือดร้อนด้วย ขออย่าไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 เนื่องจากสิบกว่าปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง โดยเฉพาะสภาพอากาศ ที่สำคัญให้ดูปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา ยืนยันรัฐบาลเข้าใจความเดือดร้อนและจะเร่งแก้ปัญหาดูแลให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้ได้มีประชาชนร้องเรียนว่าอยู่กันอย่างยากลำบากน้ำท่วมมีผู้ป่วยติดเตียง นายกฯได้กล่าวทันทีว่า ถ้ามีผู้ป่วยติดเตียงต้องเอาออกทันที อย่าให้มีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ข้างใน ให้เร่งเอาออกมา พร้อมสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีทันที ทั้งนี้ระหว่างเดินพบประชาชน ชาวบ้านได้บอกให้สู้ๆ นายกฯจึงตอบกลับว่า "สู้จนตาย"

จากนั้นนายกฯ ขึ้นรถยกสูงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ) สำรวจสภาพความเสียหายจากน้ำท่วมภายในวัด โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การมาเยี่ยมประชาชนครั้งนี้ เพราะเห็นใจที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมอะไรที่รัฐบาลทำได้ก็พยายามรีบทำก่อน ตนเข้าใจประชาชนที่ต้องอยู่กับน้ำในระยะเวลาหนึ่ง แต่เดี๋ยวสถานการณ์ก็จะค่อยๆดีขึ้น ตอนนี้ก็ได้สั่งการให้สูบน้ำในจุดที่สามารถทำได้ และดีใจที่ระดับน้ำเริ่มลดลง

ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ประสบปัญหาจากแม่น้ำเจ้าพระยาและปริมาณฝนตกสะสมทั้งต่างพื้นที่และในพื้นที่ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย มีประชาชนได้รับผลกระทบ 8 หมู่บ้าน จำนวน 2,335 ครัวเรือน ซึ่งปัจจุบัน จ.สิงห์บุรี มีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 167 หมู่บ้าน 13 ชุมชน 20,419 ครัวเรือน 58,811 ราย พื้นที่การเกษตร 44,803.03 ไร่ ประมง 165.25 ไร่ (เสียชีวิต 6 ราย)

จากนั้นนายกฯ เข้าสักการะพระสุวรรณมงคลมหามุนี ซึ่งเป็นองค์พระใหญ่ประจำวัดพิกุลทอง เพื่อสำรวจความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตามในช่วงที่นายกรัฐมนตรีลงเรือท้องแบน มีการพบปะให้กำลังใจประชาชนและเยี่ยมบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย ณ หมู่ที่ 3 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดยระหว่างนั่งเรือ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้โยน EM ball เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ ช่วยย่อยตะกอนให้กลายเป็นอาหารของสัตว์เล็กๆ เพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีในน้ำทำให้เกิดการย่อยสลายที่มากขึ้น และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำทำให้สภาพของน้ำสมดุล ซึ่งบริเวณนี้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 289 ครัวเรือน

ส่วนสถานการณ์น้ำโดยรวมขณะนี้เริ่มมีแนวโน้มลดลง สอดคล้องกับการระบายของเขื่อนเจ้าพระยาและระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาที่เริ่มลดลงเช่นกัน ทำให้ จ.สิงห์บุรี วางแผนที่จะเร่งสูบน้ำเพื่อระบายออกจากพื้นที่บ้านเรือนประชาชนไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาให้สัมพันธ์กับสถานการณ์น้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ปกติโดยเร็ว