ปัตตานีเปิด "โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ"

ปัตตานีเปิด "โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ"





ad1

วันนี้( 14 กันยายน 2565) บรรยากาศที่หอประชุมโดมน้ำตาล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีเปิด "โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ" โดยมี นางประภา บุญหลวง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานี กล่าวรายงาน มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ก่อตั้งขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2524 มีภารกิจในการให้การอุปการะเลี้ยงดูเด็กกำพร้าที่มารดาคลอดแล้วทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม ของเด็กก่อนจะส่งเด็กเข้าสู่สถาบันครอบครัว ทั้งครอบครัวผู้ให้กำเนิดและครอบครัวบุญธรรมทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อ พ.ศ.2524 จนถึงปัจจุบัน เป็นจำนวน 579 ราย

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2551 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีพระราชกระแสรับสั่งต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เกี่ยวกับการตัดแว่นตาให้ผู้สูงวัยว่า ยังไม่มีหน่วยงานใดช่วยดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชประสงค์อย่างจริงจัง ทั้งนี้ ทรงเล็งเห็นว่า หากผู้สูงวัยต้องเลี้ยงดูเด็กกำพร้า หรือต้องเลี้ยงหลานแต่ตามองเห็นได้ไม่ชัดเจนจะเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว

มูลนิธิฯ จึงได้น้อมนำพระราชกระแสรับสั่งหารือกับห้างแว่นท็อปเจริญ ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนในการดำเนินงานให้บริการตรวจสายตาและประกอบแว่นแก่เด็กยากไร้ และอยู่ในถิ่นทุรกันดารโดยจัดทำโครงการ "แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ" และขอพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้มูลนิธิฯ ร่วมดำเนินการกับห้างแว่นท็อปเจริญ เพื่อช่วยเหลือในการตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ยากไร้ ด้อยโอกาส ต้องดูแลเด็ก และอยู่ในถิ่นทุรกันดารมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยกำหนดจัดโครงการระยะแรกเป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2552 - 31 ธันวาคม พ.ศ.2557 ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาติให้ดำเนินการได้ และเพื่อให้การดำเนินการตามโครงการ สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี มูลนิธิฯ จึงขอความร่วมมือกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อขอให้หน่วยงานของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการที่มีอยู่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ช่วยคัดกรองผู้สูงวัยที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป และมีปัญหาทางด้านสายตาเข้ารับบริการ

ทั้งนี้ คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านสายตาของห้างแว่นท็อปเจริญ จะออกให้บริการตรวจวัดสายตาแก่ผู้สูงวัยเดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 400 คน และจะประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยทุกคนตามค่าสายตาที่เป็นจริง จะประกอบแว่นตาให้กับผู้สูงวัยทุกคนตามค่าสายตาที่เป็นจริง หากพบผู้สูงวัยเป็นต้อกระจก กรรมการผู้จัดการห้างแว่นท็อปเจริญได้บริจาคเงิน จำนวน 200,000 บาท เพื่อขอพระราชทานพระราชานุญาตจัดตั้งเป็นกองทุนสนับสนุนการเดินทางของผู้ป่วยและญาติในการเดินทางมารับการผ่าตัดลอกต้อฝังเลนส์ที่ "ศูนย์รักษาตาจักษุท็อปเจริญ" กรุงเทพมหานคร สำหรับค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดลอกต้อ ฝั่งเลนส์ ห้างแว่นท็อปเจริญจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ปัจจุบันได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ดำเนินการต่ออีก 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2568