รพ.ศรีสะเกษร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์ประชุมวิชาการเรื่อง"พ้อกันวันกระดูก และ ข้อ"กระตุ้นปชช.รู้ถึงโรคภัย

รพ.ศรีสะเกษร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์ประชุมวิชาการเรื่อง"พ้อกันวันกระดูก และ ข้อ"กระตุ้นปชช.รู้ถึงโรคภัย





ad1

ศรีสะเกษ-โรงพยาบาลศรีสะเกษร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์ แห่งประเทศไทย เปิดการประชุมวิชาการเรื่องโครงการ"พ้อกันวันกระดูก และ ข้อ" ที่ห้องประชุมปีบทอง คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 นายนพ พงศ์พลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุม  ที่ห้องประชุมปีบทอง คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ

นพ พงศ์พลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ

ในการจัดงานครั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ด้านโรคทาง"ออร์โธปิดิกส์ "ในกลุ่มประชาชนและกลุ่มบุคลากรด้านสาธารณสุขการจัดการประชุมครั้งนี้เกิดจากการที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์ แห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นความสำคัญในการสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคมและการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยที่เป็นโรคกระดูกพรุน และโรคข้อเสื่อม หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค โดยผู้ป่วยที่มีกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน พบว่ามีคุณภาพชีวิตที่ลดลง และมีอายุสั้นกว่าผู้สูงอายุที่อายุเท่ากันและจากข้อมูลภาวะแทรกซ้อนภายหลังกระดูกสะโพกหักจากโรคกระดูก พรุนพบว่าร้อยละ 147 ของผู้ป่วยกระดูกสะโพก

นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสะเกษ

จากโรคกระดูกพรุนเสียชีวิตภายใน 6 เดือนและพบว่าภายหลังรักษา 6 เดือนประมาณครึ่งหนึ่งสามารถเดินได้เอง นอกนั้นต้องใช้เครื่องช่วยเดินหรือ  หรือนอนติดเตียง ส่วนโรคข้อเสื่อม เป็นภาวะที่พบได้บ่อย พบมากในข้อใหญ่ๆและข้อที่รองรับน้ำหนัก ส่วนมากมักเกิดในข้อเข่าเกิดจากการที่ข้อต่อต้องเคลื่อนไหวและรับน้ำหนักต่อเนื่องสะสมเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดการสึกหรอของกระดูกอ่อนผิวข้อมีอาการข้ออักเสบบวมแดงร้อนเจ็บข้อและเคลื่อนไหวติดขัดตามระดับความรุนแรงของโรค แต่ปัจจุบันพบโรคข้อเข่าเสื่อมในคนที่อายุน้อยลง ซึ่งคนกลุ่มนี้ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยได้

พล.ต.ศ.นพ.ทิพชาติ บุญยรัตพันธุ์  แห่งสมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย

ดังนั้นโรงพยาบาลศรีสะเกษร่วมกับสมาคมออร์โธปิดิกส์ แห่งประเทศไทยจึงได้จัดการอบรมเพื่อให้กลุ่มประชาชนมีความรู้เพื่อป้องกันและดูแลตนเองได้ถูกต้องและบุคลากรด้านสาธารณสุขได้รับการพัฒนาด้านความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อจะสามารถดูแลผู้ป่วยได้ถูกต้องและก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ป่วยให้มากที่สุด ส่งเสริมให้เกิดมาตรการทางด้านการรักษาพยาบาลและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเกิดโรคตลอดจนวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคแก่ประชาชนทั่วไปอันจะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ ภารกิจหลัก ที่สร้างองค์กรเป็นโรงพยาบาลตติยภูมิชั้นสูงที่ได้มาตรฐานเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนสมดังวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลที่ได้ตั้งไว้

ผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วยแพทย์พยาบาลนักกายภาพบำบัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลศรีสะเกษโรงพยาบาลชุมชนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลรวมทั้งภาคประชาชนรวมทั้งสิ้น 200 คน

พล.ต.ศ. นพ.ทิพชาติ บุณยรัตพันธุ์ กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้โรงพยาบาลศรีสะเกษ ร่วมกับสมาคมออโต้วินิคแห่งประเทศไทยได้มีความตั้งใจที่จะพัฒนาบริการให้ได้มาตรฐานมีความทันสมัยและเท่าทันเทคโนโลยีที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าสัดส่วนของประชากรเด็กประชากรวัยทำงานและผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงในปีพ.ศ 2564 สัดส่วนของประชากรวัยเด็กจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 18.4 วัยทำงานคิดเป็นร้อยละ 64.12 และวัยชราจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 18.14 ของประชากรทั้งหมดโดยภายในเวลา 10 ปีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.68 เป็นร้อยละ 18. 24 และแนวโน้มนี้จะเพิ่ม ขึ้นตามลำดับในอนาคต

จากอายุที่ยืนขึ้นสิ่งที่ตามมาคือโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อมซึ่งเป็นภัยเงียบและพบมากในผู้สูงอายุทำให้กระดูกพรุนและข้อเสื่อมจะเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยในอนาคตเนื่องจากผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากบริการทางสาธารณสุขที่ดีขึ้นและเชื่อว่า ใน 50 ปีข้างหน้าอุบัติการณ์ของ กระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าของปัจจุบันซึ่งวิธีการรักษาในปัจจุบันมีผลเพียงแค่หยุดยั้งการสูญเสียมวลกระดูกรักษาอาการกระดูกหักและรักษาอาการข้อเสื่อมเท่านั้นหากประชาชนสามารถรู้วิธีในการป้องกันและชะลอภาวะกระดูกพรุนและภาวะข้อเสื่อมรวมทั้งบุคลากรสาธารณสุขมีความรู้ในการดูผู้ป่วยกลุ่มนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน