ตร.ศรีสะเกษปล่อยแม่ลักนมให้ลูกไม่ต้องค้ำประกันมีที่อยู่แน่นอน ทรัพย์ที่ขโมยมีมูลค่าไม่มาก

ตร.ศรีสะเกษปล่อยแม่ลักนมให้ลูกไม่ต้องค้ำประกันมีที่อยู่แน่นอน ทรัพย์ที่ขโมยมีมูลค่าไม่มาก





ad1

ศรีสะเกษ-ตำรวจศรีสะเกษปล่อยตัว สาวใหญ่ขโมยนมร้านสดวกซื้อ 3 กล่องให้ลูก ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ประกันตัว แต่ให้มารายงานตัวทุก12 วัน

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้านี้ ร.ต.อ.มงคล  พิไล รอง.สว. (สอบสวน) สภ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นำตัว นส.แจ่ม นามสมมุติ อายุ 51 ปีชาวบ้านใน อ.เมืองศรีสะเกษ ผู้ต้องหาขโมยนมจากร้านสะดวกซื้อ 3 กล่อง มาลงบันทึกประจำวันก่อนปล่อยตัวชั่วคราว ไม่ต้องมีหลักทรัพย์เนื่องจากเห็นว่ามีหลักฐานที่อยู่ชัดเจนอีกทั้งทรัพย์สินที่ลักไปมีมูลค่าไม่มากนัก โดยมี นส.แก้ว นามสมมุติ ผู้เป็นพี่สาวมารับตัวไป ซึ่งพนักงานสอบสวนนัดให้มารายงานตัวทุก 12 วันจนกว่าตำรวจเจ้าของคดี ได้มีการสรุปสำนวนส่งอัยการได้

ร.ต.อ.มงคล พิไล รอง.สว. (สอบสวน) สภ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจสภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เมื่อไปตรวจสอบพบผู้จัดการร้านควบคุมตัว นส .แจ่ม ไว้แล้วจึงตรวจค้นกระเป๋าผ้าสีดำที่ น.ส. แจ่ม สะพายอยู่พบนมกล่องจำนวน 3 กล่องอยู่ในกระเป๋า ตำรวจเห็นว่าของที่ขโมยไปมีไม่มากนักและมีมูลค่าเล็กน้อยจึงชำระเงินค่านมแทนให้เพื่อไม่ให้ นส.แจ่ม ถูกจับกุม แต่ปรากฏว่าผู้จัดการร้านสดวกซื้อไม่ยอมเนื่องจากกระทำลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งจึงนำตัวมาบันทึกจับกุมและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ภายหลังจากมีข่าวนำเสนอเผยแพร่ออกไป ล่าสุดความคืบหน้าของคดีนี้ พ.ต.อ .เทพพิทักษ์ แสงกล้ารอง.ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหารายนี้แล้ว โดยให้เหตุผลกับ ผู้สื่อข่าวว่าคดีนี้ได้มีการตรวจสอบแล้วเห็นว่าแม้คดีนี้ จะเป็นคดีอาญาฯ ข้อหาลักทรัพย์ซึ่งมีโทษจำคุกถึง 5 ปี และบุคคลอื่นไม่ควรจะเอาเป็นแบบอย่าง แต่เนื่องจากพูดต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งมีบุตรที่จะต้องดูแลไม่น่าจะหลบหนีแหละทรัพย์ที่ขโมยเอาไปไม่มีมูลค่ามากเพียง 39 บาทเท่านั้น ซึ่งเล็กน้อย หากประกันตัวไปไม่น่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและไม่น่าจะเสียรูปคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของพนักงานสอบสวนและสั่งให้ผู้ต้องหามารายงานตัวตามนัดต่อไป

ด้าน น.ส.แจ่ม กล่าวกับ ผู้สื่อข่าว ด้วยใบหน้าละห้อยว่า เสียใจในการกระทำความผิดครั้งนี้อย่างมาก ต่อไปจะไม่ทำ ผิดอีกแล้ว จะเปลี่ยนนิสัยจากการลักเล็กขโมยน้อย พร้อมยกมือท่วมหัวไหว้ ขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้การช่วยเหลือดูแลให้ได้ออกจากห้องขังซึ่งจะทำให้แม่ที่บ้านสบายใจ หายเป็นทุกข์ ไม่ต้องห่วงอีกต่อไป และขอสัญญาว่า จะไม่ประพฤติตัวเช่นนี้อีกต่อไปแล้ว

เสนาะ วรรักษ/รายงาน