ตามจับยกแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูง บนเขาใหญ่ ด้วยกล้อง "NCAPS"

ตามจับยกแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูง บนเขาใหญ่ ด้วยกล้อง "NCAPS"





ad1

ปราจีนบุรี  - เจ้าหน้าที่ตามจับแก๊งค์ตัดไม้พะยูงบนเขาใหญ่มรดกโลก ด้วยกล้อง  "NCAPS" (Network Centic Anti Poaching Systern)  

เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๕    ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุ รีรายงานว่า    นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่   เปิดเผยว่า     คณะพนักงานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากร ประกอบด้วยชุดปฏิบัติการลาดตระเวนที่ ๑ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ ๕    ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการ   พ.ร.บ.อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 

โดยเมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๕ ตามที่ได้รับแจ้งข้อมูลจากระบบเฝ้าระวัง การกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ "NCAPS" (Network Centic Anti Poaching Systern)   ทำให้ทราบว่า เวลาประมาณ ๑๑.๓๓ น. พบกลุ่มบุคคลลักลอบเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ข้างต้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณป่าคลองฟันปลา ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยได้ทำการแบ่งกำลังออกเป็น ๒ ชุด เข้าทำการดักชุ่มในบริเวดังกล่าว

 จนกระทั่งวันนี้   ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕     เวลา ๑๑.๓๓ น. ได้รับแจ้งข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ "NCAPS" (Network Centric Anti Poaching System) พบกลุ่มชาย๓คน เดินมุ่งหน้าไปบริเวณจุดที่ทำไม้พะยูง      ขณะเดียวกันได้มีชาย ๑ คน สะพายเลื่อยพร้อมเป้ ผ่านเข้ามามาในจุดที่คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการตักชุ่มอยู่

 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมควบคุมตัวชายดังกล่าวไว้ เวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. ได้ยินเสียงสับ ถาก ฟันไม้เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมกลุ่มชาย ๓ คน สามารถควบคุมได้ ๒ คน อีกหนึ่งคนได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่ได้ทำการหลบหนีไปได้

 สอบถามทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ (๑ นายกิตติภพ วงศาลี ชื่อเล่น แฟร้งค์อายุ ๒๙ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๖๒๔ หมู่ ๑๕ ตำบลวังทอง อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว (๒) นายทรงชัย เอติละอายุ ๒๑ ปี ชื่อเล่น โฟ อยู่บ้านทุ่งยาว เลขที่ ๒๕ หมู่ ๑๖ ตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรีเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. (๓) นายรุ่งโรจน์ มะหา ชื่อเล่น โอ้ต อายุ ๒๗ ปี อยู่บ้านดงบังเลขที่ ๙๑/๑ หมู่ ๖ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยพฤติกรรมของกลุ่มทำไม้กลุ่มนี้จะกระทำร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่กันทำคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุโดยละเอียด พบร่องรอยการทำไม้โดยใช้เลื่อยโช่ยนด์ บั่น ทอน ตัด โค่น จำนวน ๑ ตอ และพบไม้พะยูง (ถากกลม) จำนวน ๒ ท่อน เลื่อยโซ่ยนต์จำนวน ๑ เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ในการกระทำผิดอีกจำนวนหนึ่ง ร่องรอยการแปรรูปไม้สภาพสดใหม่ ดูจากเนื้อไม้ สีของไม้ ใบไม้ ปรากฎว่าเป็นไม้พะยูง (Dalbergia cochinchinensis Pierra) ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ มาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ไม้พะยูงแปรรูปดังกล่าวไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีตราประทับแต่อย่างใด คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องมีจับคำพิกัดสัญญาณดาวเทียม จุดเกิดเหตุ พิกัดที่ ๔๗ P o๗๖๖๔ooE ๑๕๖๘๔๕๔N (WGS๘๔) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ท้องที่ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบของกลางในการกระทำผิด ดังนี้
ไม้พะยูง (ถากกลม) จำนวน ๒ ท่อน รวมปริมาตร ๐.๐๖๑ ลูกบาศก์เมตร ไม่พบรูปรอย   ดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีตราประทับแต่อย่างใด,  เลื่อยโข่ยนด์ ยี่หัอ KANTA สีแดง ไม่มีหมายเลขเครื่อง จำนวน ๓ เครื่อง,   . เลื่อยคันธนู จำนวน ๑ อัน, ขวาน จำนวน ๕ เล่ม, มีดตะขอ จำนวน ๒ เล่ม, โซ่เลื่อยโซ่ยนด์ ขนาด ๒๐ นิ้ว จำนวน ๒ เส้น, โซ่เลื่อยโซ่ยนต์ ขนาด ๒๒ นิ้ว จำนวน ๑ เส้น, โซ่เลื่อยโซ่ยนต์ ขนาด ๒๖ นิ้ว จำนวน ๑ เส้น   ,เป้ สีแดง จำนวน ๑ ใบ

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ นายกิตติภพ วงศาลี กับพวกรวม 3 คน ผู้ถูกจับ ทราบว่าพื้นที่ป่าบริเวณที่เข้ามากระทำผิดเป็นพื้นที่ "ป่า" ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๒ ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้พุทธศักราช ๒๔๘๔ ,ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๒ และ พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.๒๕๔๕ ดังนั้น นายกิตติภพ วงศาลี กับพวกรวม ๓ คน     จึงต้องถูกจับจากการสอบถามผู้ถูกจับ นายกิตติรพ วงศาลี กับพวกรวม ๓ คน ได้ให้ถ้อยคำว่า นายทิว ไม่ทราบนามสกุล (ผู้หลบหนีไปได้) อยู่บ้านทุ่งยาว ตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ได้ทำการว่าจ้างให้ช่วยทำไม้และชักลากไม้พะยูงออกนอกพื้นที่ โดยให้ค่าตอบแทนคนละ ๑,๐๐๐ บาท ส่วนไม้จะไปขายให้บุคคลใดนั้นตนไม่ทราบ

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับได้แจ้งฐานความผิดแก่ผู้ถูกจับว่าได้กระทำผิด ดังนี้     พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒    มาตรา ๑๙ (๒) ฐานร่วมกันเก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็น   อันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปีโตรเลียมหรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น    มาตรา ๑๙ (๖) ฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์     ฐานบรรดาไม้ สัตว์ป่า ทรัพยากรธรรมชาติอื่นใดที่มีอยู่ในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยานสวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติที่บุคคลได้มาจากการกระทำความผิด หรืออาวุธ เครื่องมือ เครื่องใช้ สิ่งปลูกสร้างอุปกรณ์ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใดๆ ที่บุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือมีไว้เพื่อใช้กระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด ตามมาตรา ๑๙ (๑) (๒) (๔) (๕) (๗)  หรือ (๑๐ ให้ริบเสียทั้งสิ้น โดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็นของผู้กระทำความผิดและมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาของ   ศาลหรือไม่ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๒ มาตรา ๕๖   พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔    ฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา  และมาตรา ๗๓ วรรค ๒ (๑)    ฐานมีไม้หวงห้าม (พะยูง) อันยังมีได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต   ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา ๖๙ และมาตรา ๗๓ วรรค ๒ (๑) ห้ามมิให้ผู้ใดมี ผลิต หรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ ตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๔

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งแก่ นายกิตติภพวงศาลี กับพวกรวม ๓ คน ผู้ถูกจับ ให้ทราบว่าผู้ถูผู้ถูกจับมีสิทธิ์ที่จะพบและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ถ้าผู้ถูกจับประสงค์จะแจ้งผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการถูกบกุมที่สามารถดำเนการได้โดยสะดวก ไม่เป็นการขัดขวางการคุม ผู้ถูกจับ หรือทำให้ไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ถูกจับอนุดำเนินการได้ตามสมควรแก่กรณี โดยผู้ถูกจับได้รับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับ ตำบลดงขี้เหลีก อำเภอเมืองปราจีนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เหตุพิกัดที่ ๔๗ P OnDb๔OOEเหตุเกิดเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. เหตุเกิดที่บริเวณป่าคลองฟัน๑๕๖๘๔๕๔N (WGS๘๔) รายละเอียดปรากฏตามแผนที่สังเขปแสดงบริเวณการจับกุมตรวจยึดและแผนที่เกิดเหตุที่แนบท้ายบันทึกการจับกุมนี้ และในการจับกุมครั้งนี้พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางและอุปกรณ์กระทำผิดโดยได้อาศัยอำนาจตามมาตรา ๖๔ ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ และมาตรา๑๙ พ.ร.บ.อุทยานแห่งซาติ พ.ศ.๒๕๖๒ และได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน    พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ถูกจับมายังที่ทำการเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติที่ ๕ เพื่อทำการบันทึกจับกุม บัญชีของกลาง แผนที่สังเขป โดยได้มอบหมายให้นายสุรัตน์ มนอยู่พะเนาว์ พนักงานพิทักษ์ปา เป็นผู้กล่าวโทษ นายสลัก ไชยราชา พนักงานพิทักษ์ป่า โทร ๐๙๒-๒๙๕๗๓๙๒ ให้การเป็นพยาน นำบันทึกจับกุมและตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

อนึ่ง การบันทึกการจับกุมฉบับนี้ไม่ได้เขียน ณ ที่เกิดเหตุ เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ในป่าลึก     การเขียนบันทึกไม่เป็นไปโดยสะดวก จึงมีความจำเป็นต้องนำผู้ถูกจับพร้อมอุปกรณ์ของกลางในการกระทำผิดไปยังฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แล้วทำการตรวจสอบและทำการบันทึกจับกุมในการจับกุมและการตรวจยึดของกลางครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ผู้จับได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ มิได้บังคับขู่เข็ญหรือทำร้ายร่างกายผู้ถูกจับ และมิได้เรียกทรัพย์สินเงินทองจากผู้ถูกจับหรือจากผู้หนึ่งรวมทั้งมิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้ใดสูญสียเสียหายแต่อย่างใด ได้อ่านบันทึกการจับกุมครั้งนี้ให้ผู้ถูกละได้ให้ผู้ถูกจับอ่านบันทึกการจับกุมนี้แล้ว รับว่าถูกต้องเป็นความจริงและให้ใช้บันทึกจับพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาลได้ จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี  รายงาน