“เต้-มงคลกิตติ์”ลั่นพร้อมตั้งทนาย“อัจฉริยะ -กฤษณะ”ที่ปรึกษากม.คดีแตงโม (มีคลิป)

“มงคลกิตติ์” ไม่สนแม้คนหาว่าหิวแสง ทำคดีปั่นป่วน เชื่อ 66 ล้านคนมีสิทธิที่จะค้นหาความจริง พร้อมตั้ง “อัจฉริยะ” - “ทนายกฤษณะ” เป็นที่ปรึกษากฎหมายคดีแตงโม

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วยนายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่บ้านพักย่านรัตนาธิเบศร์ หลังออกข้อบังคับแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ในคดีของดาราสาวแตงโม นิดา หรือ นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ อายุ 37 ปี ที่พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจนเสียชีวิต 2 คน ได้แก่ นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไขคดีให้กระจ่าง และให้คดีนี้มีความโปร่งใสเป็นธรรม 

โดยนายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า การออกข้อบังคับนี้แม้จะยังไม่ผ่านที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ข้อบังคับออกมาในฐานะของหัวหน้าพรรค ที่พึงจะสามารถออกข้อบังคับนี้ได้ เพื่อขยายการทำงานได้กว้างขึ้น และให้เกิดความยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งนายกฤษณะเองได้เกาะติดคดีนี้มาตั้งแต่เกิดเรื่องหรือตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา และเคยเป็นทนายความของคุณแม่ของคุณแตงโม จึงมีความรู้ และข้อมูลหลายๆเรื่อง มีความตรงไปตรงมา ตนรู้สึกเสียดาย ประกอบกับทางพรรคเองมีนโยบายของการปฏิรูปการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว และตรงกับในข้อที่ 9 ของพรรค ที่ให้ความดูแลควบคุมเรื่องระบบของกฎหมาย และระบบกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนชาวไทยตามบทบัญญัติของกฎหมาย จึงอยากให้คดีนี้มีความกระจ่างโดยแท้จริง 

นางมงคลกิตต์ ยืนยันไม่ได้แทรกแซงการทำงานข้าราชการ ไม่ได้หิวแสง แต่เป็นการทำทุกอย่างเพื่อประชาชน 66 ล้านคน เนื่องจากคุณแตงโมเป็นบุคคลสาธารณะ โดยหลังจากนี้จะมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการอีกครั้งในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในช่วงสัปดาห์หน้า

ส่วนประเด็นหลักฐานใหม่ นายมงคลกิตต์ ระบุว่า ตนได้เก็บคราบเลือดที่เจอในวันก่อนใส่ถุงซิปอย่างดี ลักษณะเป็นเลือดเก่าๆมีฝุ่นทับ แต่เป็นคราบที่เหมือนถูกล้างไปแล้ว บริเวณชั้น 2 ของประตูระบายน้ำเทศบาลบางกรวยระหว่างวัดค้างคาวและวัดลุ่ม ซึ่งเป็นจุดที่พบศพของคุณแตงโมลอยน้ำผ่านไป 50 เมตร โดยไม่แน่ชัดว่าคราบเลือดดังกล่าวจะเกี่ยวข้องในคดีหรือไม่ เพียงแต่เป็นข้อสันนิษฐานหนึ่งเท่านั้น

เบื้องต้นได้สอบถามชาวบ้านแถวนั้น บอกว่า เป็นเลือดของปลาช่อน ปลาดุก แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่อ และเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย จึงให้คณะทำงานของพรรคทำหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อจะส่งให้ไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หากพิสูจน์แล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดี ก็จะตัดทิ้งไป และมุ่งหาผ้าสีขาวของคุณแตงโมที่ยังหาไม่เจอ ยืนยันว่า คดีนี้เป็นการฆาตกรรม เพราะถ้าเป็นคดีที่เกิดจากความประมาท ตนหยุดทำไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่ตนมีหลักฐานที่รวบรวมและหามาได้ประมาณ 1 เดือน แต่บางอย่างยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เชื่อว่าเด็ดแน่นอน

ขณะที่ประเด็นคุณปอและโรเบิร์ตบวชพราหมณ์นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่อยากแนะนำให้พูดความจริงดีกว่า และรอฟังแถลงของคนบนเรือทั้ง 5 คนอีกครั้ง พร้อมฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลเขาดีๆ ทุกฝีก้าว

ด้านนายฤษณะ เปิดใจอีกครั้งว่า การหาหลักฐานต่างๆที่ผ่านมาให้ดูที่เจตนาเป็นหลัก เพราะเชื่อว่านายมงคลกิตต์ ไม่ได้จะเอามาใส่ร้ายใคร โดยวันนี้อยากขอบคุณคุณแตงโมเป็นคนแรก เพราะที่ผ่านมาจะพกรูปของคุณแตงโมอยู่ตลอดเวลาไว้ในเสื้อสูท ซึ่งเวลาออกไปหาข้อมูลบางครั้ง ก็หาอะไรไม่ได้เลย ก็จะหยิบรูปของคุณแตงโมและลูบที่ใบหน้า พร้อมคิดอยู่ในใจว่า “ขอให้ช่วยพี่หน่อย และดลบันดาลใจให้พี่ได้เจอหลักฐานใหม่ๆ” และคุณแตงโม อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้มาพบกับ สส.เต้ หรือ นายมงคลกิตต์ด้วย

โดยทุกวันนี้ตนได้เรียนรู้ รับรู้ เข้าใจ และยืนยันว่า จะไม่ร้องไห้เหมือนเดิม เพราะผ่านจุดตรงนั้นมาได้แล้ว และรู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งมากขึ้น หลังจากนี้จะหาความจริงให้เกิดความกระจ่าง แม้ที่ผ่านมาบางครั้ง อาจจะกระทบกระทั่งกับคนที่ร่วมงานมาบ้าง เพราะด้วยความอาวุโส แต่ก็เข้าใจ และขอบคุณที่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทุกคนได้ให้โอกาสและกำลังใจที่จะเดินหน้าหาคำตอบให้กับพี่น้องประชาชน ก่อนทิ้งท้ายบอกคุณแตงโมว่า “รอพี่อีกนิดเดียว”

ทั้งนี้ นายกฤษณะ ยังบอกอีกว่า ทุกวันนี้ยังติดต่อกับทนายเดชาและคุณแม่ของคุณแตงโมอยู่ เพราะยังให้ความเคารพ ไม่ได้ขาดการติดต่อหรือมีปัญหากันแต่อย่างใด แม้ว่าตนจะมาตรงจุดนี้ ยืนยันว่ายังให้ความเคารพและหากมีหลักฐานใหม่จะปรึกษากับทางพรรคในการคัดกรองส่งไปให้กับทนายเดชา โดยเมื่อวานนี้ก็เพิ่งได้คุยกับคุณแม่ ก็ได้ให้กำลังใจว่าไม่ต้องกังวลใจอะไร ซึ่งคุณแม่เองก็เป็นห่วงเรื่องคราบเลือดบนเรือและอยากให้ติดตามเรื่องนี้ต่อ ส่วนหลักฐานสำคัญที่ได้มอบให้กับทางพันตำรวจเอกจาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่บอกเพียงว่าเป็นการสนทนากับคนบนเรือหลังเกิดเหตุ

นอกจากนี้ทนายเดชาเอง ก็ได้ยินดีกับตนและให้ระวังเรื่องการให้สัมภาษณ์ อย่าพาดพิงถึงคุณแม่ เพราะอาจจะทำให้คดีเสียหาย และเกิดความขัดแย้ง โดยยอมรับว่าหลังจากถูกเปลี่ยนตัวทนายไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดใคร แต่ยอมรับว่าไม่ได้มีแผน 2 จึงได้นั่งสมาธิ ก่อนมีสติและได้มาทำงานร่วมกับทางพรรคของนายมงคลกิตต์ พร้อมทั้งอยากบอกไปถึงเจ้าหนี้และผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดอุดรธานีทุกคนว่า “รอหน่อย และยืนยันจะชำระให้ทุกท่าน ขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา อยากให้เชียร์ผม และเซฟผมบ้าง”