วบส. 7 นิด้า ศึกษาดูงาน-เสนอแผนยุทธศาสตร์ คาร์บอนเครดิต โอกาสทางศก.ไทย

วบส. 7 นิด้า ศึกษาดูงาน-เสนอแผนยุทธศาสตร์ คาร์บอนเครดิต โอกาสทางศก.ไทย





ad1

ชลบุรี-คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า) หลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับ นักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 7 กลุ่ม HURWICZ เสนอแผนยุทธศาสตร์คาร์บอนเครดิตสำหรับประเทศไทย ชี้คาร์บอนเครดิต เป็นได้ทั้งวิกฤต และโอกาสทางเศรษฐกิจไทย ต้องกำหนดเป้าหมายการลดการปลดปล่อย การดูดซับ และการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ชัดเจนพร้อมส่งเสริมการปลูกป่าในทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง

      
คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นำคณะผู้เข้าอบรมหลักสูตรวิทยาการการจัดการ สำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) รุ่นที่ 7 เดินทางไปศึกษาดูงานที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และวังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2565 นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอรายงาน การศึกษากลุ่ม และจัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียนการสอน ให้กับ โรงเรียนบ้านนอก อำเภอบาง
ละมุง จังหวัดชลบุรี

        
รองศาสตราจารย์ ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรฯ กล่าวว่า วบส. เป็นหลักสูตรฝึกอบรมที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพนักบริหารระดับสูง ทั้งด้านวิสัยทัศน์ ภาวะผู้นำ และสมรรถนะด้านการบริหารทันยุคสมัย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง สามารถแข่งขันได้ และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน จึงเป็นการรวมตัวของข้าราชการ ผู้บริหารระดับสูง จากภาครัฐ เอกชน องค์กรชั้นนำต่างๆ ที่มีประสบการณ์และองค์ความรู้ที่หลากหลาย สำหรับปีนี้ 
มีผู้สนใจศึกษาเรื่องคาร์บอนเครดิต ซึ่งสอดคล้องกับการประชุมสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) โดยการศึกษาเรื่องดังกล่าวของกลุ่ม HURWICZ จะทำให้เห็นภาพรวมว่า ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศไทย ให้ไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์ (Net-zero GHG Emissions) ได้อย่างไร
     
นายสิทธิชัย ตลับนาค รองประธานกลุ่ม HURWICZ ผู้เข้าอบรมหลักสูตร วบส. รุ่นที่ 7 กล่าวว่า จากการที่ทั่วโลกตระหนักถึงวิกฤตการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมีเจตนารมย์ร่วมกันในที่ประชุม COP26 เพื่อมุ่งสู่การเป็น Net-zero GHG Emissions นั้น สำหรับประเทศไทยมีการวางยุทธศาสตร์ เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายนี้ เช่นกัน ซึ่งนอกจาก ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันลดการปล่อยมลพิษแล้ว จากการศึกษาของกลุ่ม ยังเห็นถึงโอกาสทาง
เศรษฐกิจ จากวิกฤตครั้งนี้ เนื่องจากในอนาคตคาร์บอนเครดิต จะกลายเป็นสิ่งที่ทั่วโลกต้องการ เพื่อซื้อไปชดเชย คาร์บอนในส่วนที่ยังไม่สามารถลดได้ จึงเสนอเป็นนโยบาย สำหรับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจของไทย จากคาร์บอนเครดิต
     
“ทุกภาคส่วน ควรกำหนดนโยบายที่สอดคล้อง ไปในทางเดียวกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ภาคเกษตรกร ชุมชน หรือประชาชน เพิ่มการปลูกป่า เพื่อสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต พัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขาย ให้องค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย ส่วนภาคเอกชน ควรปลูกป่าเพื่อชดเชยการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 

ในพื้นที่ของตนเอง หรือให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน ปลูกแทน ด้านภาครัฐออกมาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับโลกร้อน มาตรการกองทุน เพื่อช่วยในการลดการปล่อยมลพิษกับการปลูกป่า เช่น ผู้ใดปลดปล่อย ผู้นั้นต้องจ่ายเข้า
กองทุน ธนาคารให้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ที่มีศักยภาพในการปลูกป่า สร้างกลไกธนาคารต้นไม้ ส่งเสริมให้ประชาชนปลูกต้นไม้มีมูลค่าสูง เพื่อการออมและการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ มาตรการทางภาษี มาตรการด้านการส่งเสริมการลงทุน มาตรการส่งเสริมให้เกิดตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นต้น ที่สำคัญต้องกำหนดเป้าหมายของการลดการปลดปล่อย การดูดซับ และการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ชัดเจน”นายสิทธิชัย กล่าว

    
นอกจากนี้ ในกิจกรรมการศึกษาดูงานครั้งนี้ ได้ตั้งเป้าในการลด Carbon Footprint ด้วยการจัดให้มีการเดินทางร่วมกัน เพื่อลดการใช้พลังงานที่เกิดจากการเดินทาง รวมถึงการลดจำนวนเอกสารแจก สำหรับ Carbon Footprintที่เหลือ ประมาณ 6 tCO2e (6 tonnes of carbon dioxide equivalent) ทางกลุ่ม HURWICZ จึงดำเนินการซื้อ คาร์บอนเครดิต จากโครงการนำ CO2 ที่ปล่อยสู่บรรยากาศ กลับมาทำให้บริสุทธิ์และใช้ในการผลิตโซเดียม ไบคาร์บอเนต โดย บริษัท จีเนียส อินทิเกรเต็ด โซลูชั่น จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) อำเภอเมือง จังหวัดระยอง มาชดเชย เพื่อให้กิจกรรมการศึกษาดูงานครั้งนี้ เป็น Carbon Neutral Event โดยได้การรับรองจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) อีกด้วย
     
รายชื่อกลุ่ม วบส.7 กลุ่ม Hurwicz ประธาน พลเรือตรีประกอบ สุขสมัย รองประธาน นายสิทธิชัย ตลับนาค นายแพทย์สัญชัย ชาสมบัตินายไพโรจน์ ต้นศิริ อนุสรณ์ เลขานุการ นางอโนชา เลิศเจริญวัฒน์ นางสาวโศภิษฐา โชติช่วง เหรัญญิก นางสาวอัญชลี ตรีรัตนกุลวงศ์นางอังคณา เซร่า ฝ่ายวิชาการ นายชาญณรงค์ อินทนนท์ นายนพชัย ถิรทิตสกุล นายศุภโชค สมบูรณ์กุล นายอภินันช์ ศุนทรนันท์ดร.สรวง สมานหมู่ ฝ่ายกิจกรรม นายวุทธิพัฒน์ วิศาลศักดิ์นายจักรินทร์ ศิริยกุล ดร.กล้ายุทธ จินตนะกุล ดร.เจษฎ์ วนพงศ์ทิพากร ฝ่ายประชาสัมพันธ์ นางสาวพรรณี เอี่ยมสุขมงคล นางสาวณัฐกฤตา กุลสิริธนกร ฝ่ายอื่นๆ นายธวัชชัย บัววัฒน์นางสาวลักขณา เมี้ยนกำเนิด

นิราช/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี รายงาน