ชาวบ้านผวาซ้ำ!ช้างป่าสีดอโผล่กลับมาหากินบริเวณพื้นที่เข้าไม้แก้ว
ปราจีนบุรี – ระวังภัย!ช้างป่าสีดอ (หัวโหนก) กลับมาอีกแล้วหวั่นเหยียบชาวบ้านตาย-เจ็บอีกเกรงหน้าแล้งนี้จะยกโขลงมาเป็น100-200 ตัว ยึดพื้นที่
วันนี้ 7 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่บ้านเขาไม้แก้ว หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีพบเห็นช้างป่าสีดอ(หัวโหนก) ช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายในเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง) ได้ย้อนกลับมาหากินอยู่ที่เดิมพื้นที่หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีอีกหลังจากเมื่อวานนี้(5มี.ค.) ได้ข้ามถนนสาย359 หรือ สานสระแก้วตัดใหม่ (สรแก้ว – พนมสารคาม) ระหว่างกม48-19 กลับเข้าไปถิ่นที่อยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อติดกับ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา - ต.เขาไม้แก้วอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ล่าสุดชาวบ้านพบว่าในช่วงเย็นวันเดียวกันวันนี้ ( 6 มี.ค.) พบเห็นสีดอ(หัวโหนก) เดินออกจากป่า เข้ามาในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว และ ซ่อนตัวอยู่ในป่า
ก่อนหน้านี้ ช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้ยินเสียงสีดอ(หัวโหนก) หักกิ่งไม้ข้างป่าอ้อยของชาวบ้าน กระทั่งเวลา 16.30 น.สีดอ(หัวโหนก) ออกจากป่ายูคาลิปตัส และ หาอาหารถอนมันสำปะหลังของชาวบ้านกินอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนที่จะเดินออกมายืนอยู่ที่ป่าไร่อ้อยและกัดกินยอดอ่อนของอ้อยเป็นเวลา 10 นาทีอย่างสบายอารมณ์ จากนั้นสีดอโหนกได้ขยับตัวออกจากที่เดิมทำหน้าขึ้นทางทิศตะวันออกแล้วเดินออกจากป่าอ้อยข้ามถนนลูกรังเข้าป่ายูคาลิปตัสหายไป
พี่บุญเหลือ มั่นคง ชาวบ้านเขาไม้แก้วกล่าวว่า ช้างป่า สีดอ(หัวโหนก) ได้เข้ามาหากินอยู่ในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีนานแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว (อบต.) ฝ่ายปกครอง กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน ได้ช่วยกันผลักดันออกจากพื้นที่หลายครั้ง แต่ เพียงข้ามคืนช้างป่าสีดอ(หัวโหนก)ก็จะย้อนกลับมาที่เดิมอีก
สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ ทุกคน เกรงว่าช้างป่าอาจจะทำร้ายชาวบ้านที่ออกไปไร่ สวน หากพบกับสีดอ(หัวโหนก)อาจถูกมันทำร้ายเสียชีวิตซ้ำ 2 เหมือนที่ทำร้ายชาวบ้านยายวัย 73 ปี ที่ถูกช้างสีดอ(หัวโหนก)เหยียบเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาเร็ว ๆ นี้ ศพเพิ่งเผา อยากให้ภาครัฐทำการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ของ จ.ปราจีนบุรี ให้ช้างป่ากลับคืนถิ่นที่อยู่เดิมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายในเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง)
โดยที่ไม่ให้หวนกลับมาในพื้นที่อีก ไม่รู้ว่าทางภาครัฐจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดช่วยเหลือประชาชนได้ดีกว่านี้หรือไม่? โดยเฉพาะในช่วงนี้เข้าสู่หน้าแล้ง ที่โขลงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ที่พื้นที่ติดต่อกัน ซึ่งจำนวนประชากรเพิ่มสูง พื้นที่อยู่ ที่กิน จำกัดอาจออกมาหากินในต่างพื้นที่ ซึ่งอุดมสมบูรณ์กว่า โดยเฉพาะฝั่ง จ.ปราจีนบุรีที่มีทั้งไร่อ้อย,ไร่ทันสำปะหลัง,ไร่สัปปะรด,ไร่ข้าวโพด,นาข้าว ตลอดรวมถึงผลไม้นานาชนิดและยังมีแหล่งน้ำไม่ขาดแคลน เกรงหน้าแล้งนี้จะยกโขลงมาเป็น100-200ตัว ยึดพื้นที่
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี รายงาน