ชาวภูสิงห์เมืองศรีสะเกษสำลักน้ำป่าเทือกเขาพนมดงรักไหลทะลักจมบ้านเรือน(มีคลิป)

ชาวภูสิงห์เมืองศรีสะเกษสำลักน้ำป่าเทือกเขาพนมดงรักไหลทะลักจมบ้านเรือน(มีคลิป)





ad1

ศรีสะเกษ-น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรักระลอก 2 ไหลลงท่วมอ่างเก็บน้ำล้นท่วมถนนบ้านเรือนคอกสัตว์ นาข้าว โรงเรียน วัด จมใต้บาดาล

น้ำป่าไหลจากเทือกเขาพนมดงรัก ลงอ่างเก็บน้ำ"ห้วยติ๊กชู" อำเภอภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ น้ำล้น"สปิลเวย์" มาท่วมถนนบ้านโปร่ง หมู่ 5 สี่แยกโคกจาน ต.โคกจาน อ.ทุมพรพิสัย สูง 40 ซม ไหลเชี่ยวกราก ไหลเข้าไปในครัวของ นายอัมพร โพธิ์คำ ต้องยกสิ่งของมาไว้ที่สูง ยังท่วมบ้านเรือนที่ลุ่มริมทุ่ง คอกสัตว์ โค กระบือไม่สามารถต้อนออกไปเลี้ยงได้ต้องผูกไว้ในบ้าน กลัวน้ำพัดพาไป นาข้าวหลายพันไร่ถูกน้ำท่วมมิด 2 ครั้งเสียหาย100% ชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนริมถนนต้องยกกระสอบทรายมาขั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าบ้าน

ส่วนโรงเรียนบ้านโปร่งสามัคคี ซึ่งเป็นโรงเรียนชั้นประถมศึกษา สอนชั้นอนุบาลถึง ป6 ตั้งอยู่ริมถนนและเป็นทางไหลของน้ำจึงไหลเข้าด้านประตูหน้าโรงเรียนทั้งไหลเชี่ยวและแรงมากภายในโรงเรียนมี "ตลาดนัดหัดขายในโรงเรียน"ได้รับผบกระทบต้องปิดขาย กระแสน้ำนี้ได้ไหลลงไปที่ต่ำ

ท่วมโรงเรียนทุ่งสิมวิทยาคม ต.โคกจาน ซึ่งเป็นชั้นมัธยมสอนถึง มฺ 6 ท่วมสูง50 ซม ทั้งอาคารเรียน โรงครัว โรงเก็บรถ ห้องน้ำ ถฑกน้ำท่วมขังทั้งหมด นายชิติพัทธ์ จันทกรณ์ ครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งนอนอยู่เวรเฝ้าโรงเรัยน ต้องแจ้งให้เจ้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาตัดไฟภายในโรงเรียนป้องกันการเกิดอันตรายจากไฟช๊อทได้

พร้อมเปิดเผยว่า น้ำได้เอ่อท่วมโรงเรียนเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน และมาในวันนี้ ตนได้มาเข้าเวร และสังเกตเห็นน้ำได้ไหลเข้ามาภายในโรงเรียน และมีระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ มวลน้ำดังกล่าวได้ไหลลงมาจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทยกัมพูชา และไหลเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู อำเภอภูสิงห์จังหวัดศรีสะเกษ จนล้นสปินเวย์ลงมาไหลหลากมาตามลำห้วยสำราญ ผ่านอำเภอขุขันธ์ อำเภอปรางค์กู่ จนถึงอำเภออุทุมพรพิสัย ได้เอ่อล้นไหลเข้าท่วมโรงเรียน ซึ่งระดับน้ำมีความสูงประมาณ 80 เซนติเมตร 

และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีก จึงได้แจ้งไปยังการไฟฟ้าอุทุมพรพิสัย ให้มาทำการตัดกระแสไฟฟ้าภายในโรงเรียน เพื่อความปลอดภัย แต่ก็ยังเป็นช่วงที่นักเรียนนั้นปิดเทอมอยู่ ยังไม่มีการเรียนการสอน ซึ่งจะเปิดเทอมในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้  ถ้าไม่มีพายุหรือมีฝนตกหนักลงมาอีก น้ำก็คงลดและกลับเข้าสภาวะปกติสามารถเปิดโรงเรียนทำการสอนได้

นอกจากท่วมโรงเรียนน้ำยังท่วมที่พักสงฆ์หนามแท่งจมบาดาล และที่วัดป่าพิมงคลวราราม บ่านโนนแดง โนนม่วง ต ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จมใต้บาดาลสาเหตุมาจาก น้ำห้วยสำราญไหลลงมาบรรจบที่ห้วยวะ ทำให้น้ำเอ่อท่วมเป็นบริเวณกว้าง พระเณรจำนวนหลายรูปไม่สามารออกมาบิณทบาตรได้ ขาวบ้านไปสามารถเข้าไปถวายเพลได้เพราะน้ำไหลเชี่ยว ต้องนิมนต์พระสงฆ์ออกมาฉันท์เพลข้างนอกริมน้ำ อย่างทุลักทุเล 

พระศรีญาณวิเทศ เจ้าอาวาสวัดป่าพิมลมังคลาราม กล่าวว่า วัดป่าพิมลมังคลาราม ตำบลทุ่งไชย อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ น้ำได้ท่วมวัดเป็นรอบที่ 2 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 น้ำได้ท่วมวัดกินพื้นที่เกือบทั้งหมด และท่วมขังอยู่ประมาณ 12 วัน สร้างความเสียหายไปบางส่วน ต่อมาน้ำได้ลดลงบ้าง แต่พอมาถึงวันนี้น้ำได้เอ่อท่วมวัดอีกครั้ง และท่วมหนักกว่าเดิมระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร

ทำให้ญาติโยมเข้ามาทำบุญที่วัดไม่ได้ พระก็ออกจากวัดไม่ได้ เวลาฉันเพลชาวบ้านต้องเอาเรือเข้าไปรับพระสงฆ์ออกมาฉันเพลที่นอกวัด พระสงฆ์ก็เดือดร้อน แต่ที่น่าเห็นใจก็คือชาวบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ทำการเกษตรนาข้าว ที่ถูกน้ำท่วม ต้นข้าวจำนวนหลายร้อยไร่จมอยู่ใต้น้ำ มาเป็นเวลาหลายอาทิตย์แล้ว และคาดว่าจะเสียหายทั้งหมด

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน