เปิดภารกิจวันแรก "ชัชชาติ" ขอบคุณชาวคลองเตยเป็นที่แรก พร้อมให้สัญญาจะเป็นผู้ว่าฯ ติดดิน 

เปิดภารกิจวันแรก "ชัชชาติ" ขอบคุณชาวคลองเตยเป็นที่แรก

เปิดภารกิจวันแรก "ชัชชาติ" ขอบคุณชาวคลองเตยเป็นที่แรก พร้อมให้สัญญาจะเป็นผู้ว่าฯ ติดดิน 





ad1

ปิดภารกิจวันแรก "ชัชชาติ" ขอบคุณชาวคลองเตยเป็นที่แรก พร้อมให้สัญญาจะเป็นผู้ว่าฯ ติดดิน 
.
วันที่ 23 พ.ค.2565 นายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ขอบคุณชาวชุมชน 70 ไร่ มูลนิธิดวงประทีป เขตคลองเตย  เพื่อขอบคุณชาวชุนชนที่มอบคะแนนเสียงให้ ส่วนที่ลงพื้นที่คลองเตย โดยมีชาวชุมชนคลองเตยรอต้อนรับตลอดเส้นทางที่นายชัชชาติได้พบปะประชาชน และมอบดอกไม้แสดงความยินดี 
.
ซึ่งนายชัชชาติ ได้กล่าวกับชาวชุมชนมาครั้งนี้เหมือนกลับบ้านเก่า ให้สัญญาว่า จะเป็นผู้ว่าที่ติดดิน ลงมาหาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และให้สัญญาว่าจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
.
สำหรับเหตุผลที่นายชัชชาติลงมาขอบคุณชาวชุมชนคลองเตยเป็นที่แรก เพราะว่า เมื่อ 2ปีที่แล้ว ตนเองเปิดตัว ลงชิงผู้ว่ากทม. ได้ลงมาที่นี่ เห็นบริเวณตรอกโรงหมู เป็นศูนย์เด็กชุมชนคลองเตย แต่ตอนนี้ถูกรื้อหมดแล้ว เป็นเรื่องน่าเศร้ามากว่าเด็กจะไปเล่นที่ไหน และชาวชุมชนคลองเตยมีทั้งหมด 28 ชุมชน มีคนอยู่นับแสนคน 
.
สิ่งที่ได้จากคลองเตยคือ ชุมชนเข้มแข็ง สามารถช่วยตัวเองและเอาตัวรอดได้ผ่านวิกฤตโควิด-19 ป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเมือง ถ้าชุมชนเข้มแข็ง สามารถใช้เป็นแนวทางพัฒนากรุงเทพฯ ในอนาคตได้และคลองเตยยังเป็นโรงเรียนสอนการบริหารงานกทม. ทั้งการจัดการศูนย์เด็ก ศูนย์กีฬา ศูนย์สาธารณสุข จึงเป็นโมเดล ของการแก้ไขปัญหาหลายอย่างที่จะต้องเกิดขึ้นที่คลองเตย
,
เมื่อได้กลับมาในพื้นที่อีกครั้งในฐานะว่าที่ ผู้ว่า กทม. รับรู้ถึงความผูกพัน ตอนนี้มีพันธกิจที่ต้องรับผิดชอบตามที่ประชาชนสั่งให้ทำ จะทำดีที่สุด
และไม่ใช่แค่คลองเตย แต่ทั้งกรุงเทพฯ ดังนั้น ไปเขตไหนก็แจ้งว่าที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ให้มาร่วมมือกัน ยืนยันว่าประสานงานได้กับทุกคน
.
สำหรับสิ่งแรกที่จะทำให้กับชาวคลองเตย มองว่า เป็นเรื่องของการศึกษา เพราะการศึกษาเป็นเครื่องมือในการลดความเหลื่อมล้ำ  เพื่อช่วยให้หลุดพ้นจากความยากจนได้ พร้อมทั้งส่งเสริมห้องสมุดเพื่อสร้างให้เด็กมีความรู้ กทม. ต้องเตรียมพวกนี้ไว้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาส  โดยงบประมาณใช้แค่หลักล้านบาท ปัจจุบันมีโครงสร้างพื้นฐานหลักอยู่แล้ว ซึ่งไม่ได้ใช้เงินเยอะ เมื่อเทียบกับอุโมงค์ระบายน้ำสองหมื่นล้าน รวมทั้ง จากที่ได้พูดคุยกับครูประทีป  อึ้งทรงธรรม ฮาตะ  ได้รับรู้ถึงกระบวนการดูแลศูนย์เด็กเล็ก  ซึ่งพบปัญหา 2 ส่วนคือ ค่าสนับสนุนอาหารรายหัวของเด็กได้แค่ 20 บาทต่อหัวตามหลักแล้ว แค่นม ก็14บาท เหลือ 6 บาทเป็นค่าอาหารและของว่าง ซึ่งไม่เพียงพอต่อหลักโภชนาการของเด็ก  และปัญหา พี่เลี้ยงศูนย์เด็กเล็กที่ได้ค่าตอบแทนลักษณะอาสาสมัคร ซึ่งค่าตอบแทนนั้นไม่พอต่อการยังชีพและไม่ได้รับสวัสดิการใดใดเลย จำเป็นต้องปรับเพื่อให้พี่เลี้ยงอยู่ได้  เด็กก็อยู่ได้
.
ทั้งนี้นายชัชชาติ ได้ให้สัญญากับประชาชนเพราะทุกคนมีความหวังจากผลการเลือกตั้งที่ออกมา ดังนั้นจะทำให้เต็มที่ และนโยบายทุกอันชัดเจน อยู่บนเว็บไซต์ทุกคนตรวจสอบได้ ทั้งนี้อาจจะไม่ได้ทำครบทั้งหมด บางอย่างอาจมีอุปสรรค แต่ก็ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบไม่ใช่ว่าหลอกประชาชน และอาจจะมีนโยบายเพิ่มมาอีก 
.    
ขณะที่ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ  เลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป บอกว่า เมื่อ 2ปีที่แล้ว ได้บอกถึงปัญหากับนายชัชชาติ ด้านคุณภาพการศึกษา ปัญหาศูนย์เด็กเล็ก คุณภาพครูสาระ รวมถึงปัญหาเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันวันเด็ก และสถานะครูที่เป็นอาสาสมัคร ทางมูลนิธิได้สะท้อนปัญหา 10 กว่าปี แต่ไม่ได้รับการแก้ไข แต่ในครั้งนี้ปัญหาได้ถูกบรรจุในนโยบายของนายชัชชาติ รู้สึกดีใจ  ซึ่งในชุมชนแออัด ยังมีปัญหาอีกมากมายที่รอแก้ไข  ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ว่าที่ผู้ว่าฯลงมารับฟังปัญหาแล่วนำไปเสาอเป็นนโยบายเพื่อแก้ไข
.
"ถ้าประชาชนมีปัญหาอย่าเงียบให้ออกมาพูด ช่วยขับเคลื่อนผลักดัน  สังคมเป็นขิงประชาชน ควรเอาออกมาให้ผู้บริหารแก้ปัญหา เสียงเดียวรวมพลังก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ "นางประทีป กล่าว
.
สำหรับบรรยากาศนายชัชชาติ ลงพื้นที่ พบปะชาวชุมชนคลองเตย ชาวบ้านและมูลนิธิดวงประทีป ได้ร่วมกันร้องเพลงอวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้า พร้อมกับเป่าเค้กให้กับนายชัชชาติ ซึ่งจะอายุครบ 56ปี ในวันที่ 24 พ.ค. พร้อมขอให้นายชัชชาติ เป็นผู้ว่ากทม. ที่ทำให้ประชาชนมีชีวิตอยู่ดีกินดี มีการศึกษาที่ดี และผู้สูงวัยได้รับการดูแล