ซัดกันเดือด! สุพัฒนพงษ์สวนครูมานิตย์ ใช้เตาอั้งโล่แค่หนึ่งรูปแบบประหยัดพลังงาน-เงินกองทุนอนุรักษ์ฯ 2 หมื่นล้านที่ก.พลังงานให้นายกฯนำไปใช้ได้รับเงินคืนแล้วผ่านก.การคลัง

23 มิ.ย. 2565  ที่รัฐสภา นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.กระทรวงพลังงาน ได้ตอบกระทู้ถามสดของ นายครูมานิตย์  สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องวกฤติราคาพลังงานที่พุ่งสูงว่า ราคาน้ำที่พุ่งสูงเกิดจากปัจจัยภายนอกไม่ใช่ปัจจัยภายใน  และวิกฤติซ้อนวิกฤติจากสงครามในยูเครน  ซึ่งขณะนี้สถานการณ์พลังงานในตลาดโลกแย่ลงกว่าเดิม  กำลังการผลิตน้อยลง ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปห่างจากราคาน้ำมันดิบมากขึ้น เช่นน้ำมันดีเซลจากเดิม 110-120 เหรียญต่อบาร์เรล  ขยับสูงขึ้น 180 เหรียญต่อบาร์เรล  ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันกว่าร้อยละ 90   ซึ่งรัฐบาลประคองราคาดีเซลอยู่ที่ 34 บาทต่อลิตร ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอยู่ที่ 46 บาทต่อลิตร  รัฐบาลต้องดูความเหมาะสม เพราะหากตรึงราคาน้ำมันมากเกินไป อาจทำให้เสถียรภาพการเงินการคลังไทยอ่อนแอ จนไม่สามารถสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานได้

นายสุพัฒนพงษ์ ได้ตอบคำถามต่อกรณีครูมานิตย์ได้ถามถึงเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน 20,000 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงพลังงานให้นายกฯ นำไปใบริหารประเทศก่อนหน้านี้ เกิดวิกฤติพลังงาน ตอนนี้ได้นำเงินกองทุนดังกล่าวกลับมาใช้แก้ปัญหาหรือไม่?  แล้วทำไมไม่ใช้กลไกทางการทูตซื้อน้ำมันจากบางประเทศ ซึ่งเชื่อว่ามีราคาถูกกว่าและพร้อมส่ง  และเหตุใดไม่ให้หน่วยงานรัฐลดสัดส่วนกำไรในการจำหน่ายน้ำมันลง ดังนี้ว่า ขณะนี้ได้รับเงินกองทุนดังกล่าวคืนแล้วโดยผ่านกระทรวงการคลัง   นอกจากนี้ กระทรวงการคลังก็ได้ลดภาษีสรรพสามิตจากที่เก็บ 5 บาทเป็น 3 บาท  ส่วนหน่วยงานภาครัฐที่จำหน่ายน้ำมันโดยเฉพาะ ปตท.  ขอชี้แจงว่าที่ผ่านมารัฐบาลขอความร่วมมือไป ปตท.ไม่เคยขัดข้อง แต่ต้องเข้าใจว่า  การบริหารในรูปแบบบริษัทจะต้องมีกำไรที่เหมาะสมเพื่อกันส่วนไว้สำหรับผู้ถือหุ้น การบริหารจัดการและการลงทุนในอนาคตด้วย

นายครูมานิตย์ได้กล่าวอีกว่า  หลายคนมุ่งคำถามปัญหาราคาน้ำมันเป็นความเดือดร้อนที่สุด ไม่เพียงราคาน้ำมันแต่ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊สก็ขึ้น ขอฝากรัฐมนตรีพลังงานที่ใกล้ชิดนายก ขณะนี้การพิจารณางบประมาณปี 66 กำลังอยู่ในวาระแรก  สงครามยูเครนก็ไม่รู้จะยุติเมื่อไหร่ ดังนั้นรัฐบาลควรพิจารณาเกลี่ยงบประมาณที่ไม่จำเป็นเช่นงบซื้ออาวุธต่างๆมาเตรียมใช้ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากวิกฤติพลังงานต่างๆจะมีประโยชน์กว่า

นายสุพัฒนพงษ์ได้ตอบว่า ทุกประเทศก็มีปัญหาเหมือนๆกัน  แต่ทุกประเทศทำเหมือนกันคือรณรงค์ประหยัดพลังงาน  ซึ่งการประหยัดพลังงานทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน 10% สามารถประหยัดเงินได้เป็นแสนล้านบาท  นอกจากนี้การใช้เตาอั้งโล่ที่เป็นประเด็นในขณะนี้ เป็นเพียงหนึ่งรูรปแบบที่ยกให้เห็นถึงการประหยัดพลังงานที่ยังมีการใช้อยู่ในชนบท ซึ่งไม่ได้หมายถึงจะให้ใช้เตาอั้งโล่เพื่อนแทนก๊าซหุงต้ม