สภาเดือดเลือดสาด! นางอมรัตน์ยื่นกระจกให้นายกฯ -นายกฯสวนกลับไม่ค่อยได้ใช้กระจก -นางอมรัตน์ประท้วงถูกพาดพิงขอให้ถอนคำพูด-บิ๊กตู่สวน" ผมไม่ถอน"

สภาเดือด

สภาเดือดเลือดสาด!  นางอมรัตน์ยื่นกระจกให้นายกฯ -นายกฯสวนกลับไม่ค่อยได้ใช้กระจก -นางอมรัตน์ประท้วงถูกพาดพิงขอให้ถอนคำพูด-บิ๊กตู่สวน" ผมไม่ถอน"





ad1

21 ก.ค. 2565   วันที่สองของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้อภิปรายไม่ไว้วางใย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ปมไม่กำกับดูแลงานของกระทรวงกลาโหม โดยกล่าวหาว่าปล่อยให้มีการล็อกสเปกงานก่อสร้างในกองทัพ และโครงการสร้างแท่นประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 9 และงานปรับปรุงภูมิทัศน์ ที่จะนำมาแทนที่อนุสาวรีย์พระยาพหลที่เพิ่งทำการรื้อถอนออกไป กรมยุทธโยธาทหารบกเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีการคัดเลือก โดย บริษัท ไอยเรศ จำกัด ชนะการคัดเลือก ด้วยการเสนอราคา 59,873,50นอก0 บาท จากราคากลาง 59,993,500 บาท โดยโครงการดังกล่าวประกาศตัวผู้ชนะการเสนอราคาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 และทำการเซ็นสัญญากันในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 แต่เมื่อดูจากแผนที่ทางดาวเทียมพบว่ากองทัพได้ให้ผู้รับเหมาเริ่มทำงานไปล่วงหน้าแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563   

สภาเริ่มเดือดเมือ นางอมรัตน์ ได้มีการยกกระจกขึ้นระหว่างอภิปราย พร้อมระบุว่า “สุดท้ายที่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ สิ่งนั้นคือกระจกบานนี้ เพราะท่านปิดคอมเมนต์ในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ซึ่งประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะสะท้อนความรู้สึกไปยังท่านได้ ตนอยากบอกว่ากระจกบานนี้เวลาที่ท่านชี้หน้าใครบอกว่าก่อความวุ่นวายก่อความไม่สงบให้มองที่กระจกบานนี้ เวลาที่ท่านเที่ยวชี้หน้าใครบอกไม่มีมารยาท ไม่รักชาติให้มองที่กระจกบานนี้ และเวลาที่ท่านว่าใครไม่อ่านประวัติศาสตร์ก็ให้ท่านมองที่กระจกบานนี้ ทั้งหมดคนคือในกระจก” นางอมรัตน์ กล่าว

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯและรมว.ก.กลาโหม ได้ลุกขึ้นมาชี้แจงว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ไปกราบสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชาและถวายธูปเทียนพรรษา  ตนก็ได้ขอแบ่งมอบให้กับทุกคนด้วยเพื่อเป็นมงคลกับทุกท่าน  ก็สุดแล้วแต่ว่าใครจะรับได้รับไม่ได้ก็แล้วแต่  เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ใครทำกรรมดีก็ได้รับกรรมดี ทำกรรมไม่ดีก็คงปรากฎต่อไป ตนทำความดีอย่างเต็มที่ แต่อาจไม่ดีในสายของท่านก็ไม่เป็นไร วันนี้ท่านบอกว่าชื่อของตนมีความหมายนู่นนี่ ก็ไปคิดเอาแล้วกันว่าคำว่า "ตู่กับเตี้ย" ความหมายเหมือนกันหรือไม่ และช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงนางอมรัตน์เกี่ยวข้องกับการก้าวล่วงสถาบัน ซึ่งนายกฯกล่าวว่าตนเองรับไม่ได้กับเรื่องนี้ ตนจำเป็นต้องพูด  อีกทั้งระบุว่า "ส่วนในเรื่องกระจก ผมไม่ค่อยได้ใช้"

ส่งผลให้นาอมรัตน์ลุกขึ้นประท้วงขอใช้สิทธิ์พาดพิง ระบุว่านายกฯได้กล่าวถึงตนว่า ก้าวล่วงสถาบันตรงไหน ซึ่งข้อหามาตรานี้ผิดมีโทษร้ายแรง อยู่ดีๆจะมาปากพล่อยกล่าวหาคนอื่นอย่างนี้ได้หรือ? อย่ามั่ว เที่ยวพูดตีขุมแบบนี้ ซึ่งทำให้ นายชวน ปธ.ที่ประชุมได้ปิดไมค์ฯของนางอมรัตน์

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงอีกครั้งว่า เวลานางอมรัตน์ พูดอะไรมาทั้งหมด ตนก็ฟังได้ และท่านก็ฟังตนบ้าง ตนไม่ได้ว่าอะไรที่เกินความเป็นจริงเท่าไร ว่า ไปดูในคดีต่าง ๆ ก็มีอยู่หลายคดีเหมือนกัน ก็ไปเตรียมต่อสู้คดีเอาแล้วกัน
ทำให้นางอมรัตน์ ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่า นายกรัฐมนตรีได้พาดพิงโดยขอให้ถอนคำพูดทั้งสองอย่าง โดยระบุว่า มาตรา 112 เป็นมาตราร้ายแรง จะมาเที่ยวป้ายให้ใครแบบนี้ได้อย่างไร นี่ก็เอาเด็กไปเข้าคุกไม่ยอมปล่อยไม่ให้ประกัน อย่ามั่ว

ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้พูดสวนกลับมาว่า “ผมไม่ได้ป้าย ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับกระบวนการ” ทำให้นางอมรัตน์ ลุกขึ้นกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีถอนคำพูด โดยนายกรัฐมนตรี ได้สวนกลับว่า “ผมไม่ถอน” ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ต้องปิดไมโครโฟนของนางอมรัตน์ อีกครั้ง และกล่าวว่า ขอให้ฟังประธาน โดยนายชวนกล่าวว่า เราอภิปรายเขาก็หนัก เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะต้องถอน  และให้ทางนายกฯได้อภิปรายต่อ




จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงอีกครั้งว่า เวลานางอมรัตน์ พูดอะไรมาทั้งหมด ตนก็ฟังได้ และท่านก็ฟังตนบ้าง ตนไม่ได้ว่าอะไรที่เกินความเป็นจริงเท่าไร ว่า ไปดูในคดีต่าง ๆ ก็มีอยู่หลายคดีเหมือนกัน ก็ไปเตรียมต่อสู้คดีเอาแล้วกัน
ทำให้นางอมรัตน์ ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่า นายกรัฐมนตรีได้พาดพิงโดยขอให้ถอนคำพูดทั้งสองอย่าง โดยระบุว่า มาตรา 112 เป็นมาตราร้ายแรง จะมาเที่ยวป้ายให้ใครแบบนี้ได้อย่างไร นี่ก็เอาเด็กไปเข้าคุกไม่ยอมปล่อยไม่ให้ประกัน อย่ามั่ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้พูดสวนกลับมาว่า “ผมไม่ได้ป้าย ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับกระบวนการ” ทำให้นางอมรัตน์ ลุกขึ้นกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีถอนคำพูด โดยนายกรัฐมนตรี ได้สวนกลับว่า “ผมไม่ถอน” ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ต้องปิดไมโครโฟนของนางอมรัตน์ อีกครั้ง และกล่าวว่า ขอให้ฟังประธาน โดยนายชวนกล่าวว่า เราอภิปรายเขาก็หนัก เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะต้องถอน โดยขอให้นายกรัฐมนตรี นั้นอภิปรายต่อ และตนคิดว่าดีที่สุดคือเราต้องระมัดระวัง.-สำนักข่าวไทย.


“แท้จริงแล้วเวลาที่มีโครงการก่อสร้างในกองทัพนั้น ได้มีการแอบล็อกผู้ชนะการประมูลกันก่อนเรียบร้อยแล้ว แบ่งกันล่วงหน้าว่างานนี้เป็นของใคร งานนั้นเป็นของใคร จากนั้นก็จ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชาให้พวกนายพลไปตามลำดับชั้น แล้วค่อยทำการการประมูลหลอก ๆ กันอย่างที่เห็น” นางอมรัตน์ กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการอภิปรายฯ นางอมรัตน์ ได้มีการยกกระจกขึ้นระหว่างอภิปราย พร้อมระบุว่า “สุดท้ายที่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ สิ่งนั้นคือกระจกบานนี้ เพราะท่านปิดคอมเมนต์ในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ซึ่งประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะสะท้อนความรู้สึกไปยังท่านได้ ตนอยากบอกว่ากระจกบานนี้เวลาที่ท่านชี้หน้าใครบอกว่าก่อความวุ่นวายก่อความไม่สงบให้มองที่กระจกบานนี้ เวลาที่ท่านเที่ยวชี้หน้าใครบอกไม่มีมารยาท ไม่รักชาติให้มองที่กระจกบานนี้ และเวลาที่ท่านว่าใครไม่อ่านประวัติศาสตร์ก็ให้ท่านมองที่กระจกบานนี้ ทั้งหมดคนคือในกระจก” นางอมรัตน์ กล่าว