กิ๊ก’ เข้าพบตำรวจยืนยันไม่ใช่คนอัดคลิปเสียงสนทนาเรื่องโควตาหวยระหว่างแรมโบ้อีสานและนางจุรีพร เผยนางจุรีพรเคยพาไปคุยเรื่องโควตากับแรมโบ้ถึงที่ทำงาน ด้านจุรีพรโต้ไม่จริง ปรึกษาแรมโบ้อีสานแล้ว เตรียมแจ้งความกลับ

กิ๊ก’ เข้าพบตำรวจยืนยันไม่ใช่คนอัดคลิปเสียงสนทนาเรื่องโควตาหวยระหว่างแรมโบ้อีสานและนางจุรีพร

กิ๊ก’ เข้าพบตำรวจยืนยันไม่ใช่คนอัดคลิปเสียงสนทนาเรื่องโควตาหวยระหว่างแรมโบ้อีสานและนางจุรีพร เผยนางจุรีพรเคยพาไปคุยเรื่องโควตากับแรมโบ้ถึงที่ทำงาน ด้านจุรีพรโต้ไม่จริง ปรึกษาแรมโบ้อีสานแล้ว เตรียมแจ้งความกลับ





ad1

วันที่ 19 เม.ย. 65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พานายสุดสยาม มากแก้ว หรือ นายกิ๊ก บุคคลที่ถูกนางจุรีพร สินธุ​ไพร​ และนายเสกสกล อัต​ถา​วงศ์​ กล่าวหาว่าเป็นคนอัดคลิปเสียงปมโควตาหวยและเงิน 15 ล้านบาท เข้ารายงานตัวที่ สน.ดุสิต ตามหมายเรียก
.
นายศรี​สุวรรณ​ ระบุว่า นายสุดสยาม เป็นคนติดต่อตน เนื่องจากถูกคนบางกลุ่มโทรศัพท์มาข่มขู่หลังมีคลิปเสียงหลุดไป ซึ่งตอนแรกตำรวจได้ออกหมายเรียกให้มาพบเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ถูกเลื่อนมาเป็นวันนี้แทน 
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุดสยาม หรือนายกิ๊ก เป็นคนอัดคลิปเสียงสนทนาจริงหรือไม่ นายกิ๊กได้ตอบปฏิเสธว่าไม่ใช่คนอัดคลิปเสียงและไม่ได้เผยแพร่​คลิปเสียงสู่สาธารณะ​ ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุก่อนไปทานอาหาร ได้ไปพบกับนายเสกสกล ที่ตึก กพ. จริง โดยช่วงแรกของกาสัมภาษณ์ นายสุดสยาม ไม่ระบุว่าไปคุยกันเรื่องอะไร แต่เล่าว่าทำธุรกิจเรื่องสกรีนเสื้อ เพราะเขาทำธุรกิจนี้ แต่เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเรื่องสกรีนเสื้อถึงต้องไปพบนายเสกสกล ถึงที่ทำงานเลยหรือ  มีเหตุจำเป็นอะไร จริงๆ แล้วไปคุยเรื่องอะไรกันแน่ นายสุดสยามได้ยอมรับว่าจริงๆ แล้วเขาสนใจเรื่องโควตาลอตเตอรี่​ เลยติดต่อนางจุรีพร ซึ่งนางจุรีพร ได้แนะนำให้มาพบกับนายเสกสกล ซึ่งหลังจากได้คุยกับนายเสกสกลแล้ว ช่วงเย็นวันนั้นเขาก็ได้ไปรับประทานอาหารกับนางจุรีพรจริง ซึ่งระหว่างรับประทาน​อาหารมีคนร่วมโต๊ะ ประมาณ 5-6 คน แต่ในช่วงที่นางจุรีพรเปิดลำโพง​สนทนากับนายเสกสกล มีเพียงเขาและนางจุรีพร 2 คน ซึ่งนายสุดสยามยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนอัดคลิปเสียง 
.
ผู้สื่อข่าวถามว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาตอนแรก นายสุดสยาม ปฎิเสธที่จะตอบถาม แต่ยืนยันว่าข้อมูลที่ทั้งสองคนพูดตรงกับคลิปเสียงที่ถูกปล่อยออกมา ไม่มีการตัดต่อใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นการคุยสั้นๆ ประมาณ 2 นาที ส่วนน้ำเสียงการพูดคุยเป็นลักษณะหยอกเล่นหรือไม่  นายสุดสยามบอกว่าให้ฟังน้ำเสียงจากคลิปเอาเป็นไปตามนั้น
.
ส่วนเหตุผลที่เขาต้องออกมา เพราะถูกข่มขู่​และต้องการแสดงความบริสุทธิ์​ใจ และหากพบว่านายเสกสกล และนางจุรีพร แจ้งกับตำรวจไม่ตรงข้อเท็จจริง ทางนายศรีสุวรรณและนายสุดสยามพร้อมแจ้งความกลับฐานแจ้งความเท็จ
.
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์กับนางจุรีพร สินธุ​ไพร​ อดีตข้าราชการ​การเมือง​ประจำ​สำนัก​เลขาธิการ​นายก​รัฐมนตรี​  ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่นายสุดสยามพูดเป็นเรื่องไม่จริง ระบุว่าบุคคลนี้แสบมาก เพราะสิ่งที่ทำให้ตนมั่นใจว่านายสุดสยาม เป็นคนอัดคลิปและเผยแพร่คลิปแน่นอน เพราะในวันนั้น ที้โต๊ะทานอาหารมีพวกตนเองซึ่งมีสามีนั่งข้างซ้ายและมีตำรวจ ทหารนั่งร่วมโต๊ะเป็นฝั่งตน 5 คน และนายสุดสยามมาเพียง1 คนนั่งข้างตนข้างขวา  ยืนยันว่าตนไม่ได้อัดคลิปเสียงเพราะไม่เก่งเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย ที่เปิดลำโพงสนทนา ก็ยังยืนกรานว่าตนกับนายเสกสกลไม่เคยมีเรื่องปิดบังอะไร 
.
ส่วนที่นายสุดสยามบอกว่า ตนได้พาไปพบนายเสกสกลเรื่องโควตาลอตเตอรี่​นั้น ไม่เป็นความจริงเช่นกัน โดยเล่าว่า วันดังกล่าวไปพบกับนายเสกสกล เพื่อหารือเรื่องการลงสมัคร นายกอบจ.จังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนนายสุดสยามได้ขอติดตามไป แต่นายเสกสกลไม่ให้พบ โดยให้นั่งรออีกห้องหนึ่ง ส่วนเรื่องที่รู้จักกับนายสุดสยามได้อย่างไร  นายจุรีพรชี้แจงว่าตนรู้จักนายสุขสยามในวันนั้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งได้ติดต่อจัดทำสกรีนเสื้อ5,000 ตัว ซึ่งมีการติดต่อประสานส่งแบบเสื้อกัน  มีหลักฐานทางไลน์ ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องโควต้าลอตเตอร์รี่  ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง ไม่สามารถติดต่อนายสุดสยามได้ และนายสุดสยามได้ทิ้งออเดอร์เสื้อ5,000ตัว มูลค่านับแสนบาทไป ซึ่งเป็นพฤตกรรมที่น่าสงสัย ทั้งนี้ได้ฝากบอกให้นายสุดสยามคืนเสื้อตัวอย่างมาด้วย   ส่วนที่ระบุว่ามีการโทรศัพท์ไปข่มขู่ก็ไม่เป็นความจริง
.
ทั้งนี้ นางจุรีพร ได้พูดคุยกับนายเสกสกลแล้ว มีความเห็นว่าจะแจ้งความนายสุดสยามกลับ ฐานหมิ่นประมาท​และทำให้เสื่อมเสีย​ชื่อเสียงจากการให้ข้อมูล​ในวันนี้