"กรณ์" ลั่น คนไทยโดนปล้น ค่ากลั่นน้ำมันพุ่ง 10 เท่าใน 1 ปี

"กรณ์" ลั่น คนไทยโดนปล้น

"กรณ์" ลั่น คนไทยโดนปล้น ค่ากลั่นน้ำมันพุ่ง 10 เท่าใน 1 ปี





ad1

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณ์ จาติกวณิช - อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ได้เปิดข้อมูลคนไทยโดนปล้น ค่ากลั่นน้ำมันพุ่ง 10 เท่าใน 1 ปี โดยนายกรณ์ จาติกวณิช ได้ โพสข้อความในเฟชบุ้กดังนี้ว่า

เปิด 3 ข้อเสนอ แก้น้ำมันแพง]

กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค เปิดข้อมูลคนไทยโดนปล้น ค่ากลั่นน้ำมันพุ่ง 10 เท่าใน 1 ปี
วิกฤตพลังงานไทย กับราคาน้ำมันที่ขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังราคาต่ำกว่าหลายประเทศในอาเซียนด้วยกัน เพราะมีการใช้กองทุนน้ำมันมาชดเชยราคาหน้าปั๊ม
แต่...วันนี้สถานะกองทุนน้ำมันติดลบ 86,000 ล้านบาท หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น อาจติดลบทะลุ 1 แสนล้านบาทในสิ้นเดือนนี้ ปัญหาตอนนี้คือ กองทุนน้ำมัน รายได้ไม่มี หนี้บาน ไม่สามารถกู้สถาบันการเงินได้อีก แม้ในอนาคตราคาน้ำมันโลกจะลดลง แต่ก็ยังเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจำนวนมาก เพื่อชำระหนี้กองทุนที่ติดลบอยู่ จึงกลายเป็นภาระในอนาคตของประชาชน
ตอนนี้คนไทยกำลังโดนปล้นจากค่ากลั่นน้ำมัน
ประเทศไทยมีความได้เปรียบ เรามีโรงกลั่นน้ำมัน ส่วนใหญ่เป็นของ ปตท.
กระบวนการคือซื้อน้ำมันดิบจากต่างประเทศ เข้าสู่กระบวนการกลั่น จากนั้นขาย บางส่วนขายในประเทศ บางส่วนส่งออกต่างประเทศ
จากข้อมูลราคาค่ากลั่นน้ำมันในช่วงเวลาเดียวกัน
⛽ ปี 2563 ราคาน้ำมันดิบ 8.10 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันสำเร็จรูป 8.98 บาท/ลิตร ค่าการกลั่นอยู่ที่ 0.88 บาทต่อลิตร
⛽ ปี 2564 ราคาน้ำมันดิบ 14.01 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันสำเร็จรูป 14.88 บาท/ลิตร ค่าการกลั่นอยู่ที่ 0.87 บาทต่อลิตร
⛽ แต่ปี 2565 ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็น 25.92 บาท/ลิตร ราคาน้ำมันสำเร็จรูป 34.48 บาท/ลิตร ค่าการกลั่นกระโดดมาอยู่ที่ 8.56 บาทต่อลิตร
เท่ากับค่ากลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ทั้งที่ต้นทุนไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่เป็นการเพิ่มตามราคาตลาดน้ำมันสิงคโปร์
กลายเป็นภาระประชาชน ในการชดเชยกองทุนน้ำมันที่ติดลบเป็นหนี้มากขนาดนี้ ทำไมรัฐปล่อยให้ฟันกำไรได้ขนาดนี้ ในช่วงที่ประชาชนและประเทศชาติกำลังเดือดร้อน
70% ของกำลังการผลิตน้ำมันกลั่นของประเทศไทย อยู่ในมือของบริษัทในครือ ปตท. คำถามคือ...รัฐ...ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงในประเด็นนี้เพื่อให้มีการค้ากำไรในระดับที่มีความเป็นธรรม?!!
พรรคกล้า ขอเสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ 3 ข้อ คือ
1.) ควรกำหนดเพดานค่าการกลั่น โดยเฉพาะโรงกลั่นของ ปตท. ที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ พร้อมกำหนดขั้นต่ำไม่ให้ถึงกับขาดทุน เพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันการค้ากำไรเกินควร
2.) เสนอเก็บ “ภาษีลาภลอย” (Windfall Tax) เพราะส่วนต่างจากราคาการกลั่นน้ำมัน เป็นราคาลาภลอยให้กับบริษัท ทำให้ได้กำไรจากส่วนต่าง จึงควรเก็บภาษีลาภลอย เพื่อนำกำไรที่เกินมาช่วยเหลือประชาชน นำมาช่วยในกองทุนน้ำมันต่อไป ขณะนี้ พรรคกล้าเราเตรียมยกร่างแก้ไขกฎหมาย ให้รัฐบาล-สภาฯ พิจารณา
3.) รัฐบาลต้องจริงจังกับมาตรการประหยัดการใช้พลังงาน ทั้งการประหยัดแอร์ ประหยัดไฟ ออกมาตรการประกาศใช้อย่างจริงจัง
"กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ควบคุมราคาสินค้า ส่วนกระทรวงพลังงานก็มีอำนาจโดยตรง รัฐมนตรีน่าจะรู้ดีเพราะเป็นลูกหม้อ ปตท. มาก่อน ช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาเกรงใจเพื่อนๆ มันมีวิธีที่จะช่วยเหลือบ้านเมืองและประชาชนได้ทันที ท่านต้องรีบตัดสินใจ ขณะที่กระทรวงการคลัง ก็มีส่วนเหมือนกัน ไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมายภาษีลาภลอย แต่ก็มีหุ้นในโรงกลั่น ทุกคนควรใช้พลังให้ถูกที่ ในการหาความเป็นธรรมให้กับสังคมไทย"
ประเด็นปัญหาเศรษฐกิจ กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤต เรานิ่งดูดายไม่ได้...