ตำรวจไซเบอร์จับกุมเครือข่าย แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์จับกุมเครือข่าย แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์จับกุมเครือข่าย แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์





ad1

วันนี้ 5 ต.ค.65 ด้วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับทุกหน่วยงานในสังกัด ขับเคลื่อนนโยบายในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยกำหนดให้การลดคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นนโยบายเร่งด่วน

 ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้จับกุมเครือข่าย
แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ซึ่งสามารถจับกุมผู้ กระทำความผิดและตรวจยึดเครื่อง GSM Gateways (Simbox) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ใช้ในการกระทำความผิด เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.1 บซ.สอท. ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนกระทั่งทราบว่ามีการใช้เครื่อง GSM Gateways(Simbox) ในพื้นที่จังหวัดชุมพร

 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท , พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. สั่งการให้กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำโดย พล.ต.ต.ชัชปัณฑการฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท. 1 กระจายกำลังลงพื้นที่ทำการสืบสวนจนกระทั่งสืบทราบว่ามีการใช้เครื่อง GSM Gateways (Simbox) ที่บ้านเลขที่ 4/15 ม.8 ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ซึ่งเป็นห้องเช่าชั้นเดียวและพบสัญญาณที่ บ้านพักเรือนไทย เลขที่ 75/2 หมู่ 6 ซอยศูนย์ราชการ5 ถนนเลียบทางรถไฟ ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นห้องพักให้เช่ารายเดือน จึงขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดชุมพร เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าวทั้ง 2 หลังดังกล่าว ผลการตรวจค้น พบนายสุจินดา(สงวนนามสกุล) และน.ส.วิภาวณี(สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นสามีภรรยากันแสดงตัวเป็นผู้เช่าห้องพักดังกล่าว และเป็นผู้นำตรวจค้น รวมทั้งหมด 11 จุด ผลการตรวจค้น เบื้องต้นพบ GSM Gateways (Simbox) เครื่องแปลงสัญญาณทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ระบบ IP-PBX จำนวน 38 เครื่อง, router wifi ชนิดใส่ชิมการ์ดได้ 19 เครื่อง เชิญตัว ผู้ครอบครองของกลางดังกล่าวทั้ง 2 ราย มาที่ สภ.เมืองชุมพร จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินการต่อไป สำหรับการทำงานของเครื่อง GSM Gateways (Simbox) ที่ตรวจยึดได้นั้นเป็นอุปกรณ์ที่คนร้าย แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ใช้ในการโทรศัพท์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแล้วแปลงสัญญาณเป็นสัญญาณโทรศัพท์เพื่อโทรออก หลอกลวงหรือข่มขู่ผู้เสียหาย ซึ่งอุปกรณ์ที่ตรวจยึดได้จำนวน 38 เครื่อง มีความสามารถโทรหลอกลวงหรือข่มขู่ผู้เสียหายได้มากถึงวันละ 608,000 ครั้ง หรือกว่า 18.2 ล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งเมื่อรวมผลการปฏิบัติที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถตรวจยึด GSM Gateways (Simbox) ได้แล้วจำนวน 240 เครื่อง ซึ่งสามารถระงับยับยั้งการโทรของคนร้ายได้กว่า 115 ล้านครั้งต่อเดือน รวมมูลค่าอุปกรณ์ที่ตรวจยึดได้มีมูลค่ากว่า 20  ล้านบาท  อนึ่งจะได้ทำการขยายผลค้นหาขบวนการผู้กระทำผิดและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อเชื่อมโยงกับคดีที่ได้รับแจ้งไว้แล้วต่อไป

นาย วรุณเทพ วัชราภรณ์  หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ เครือข่าย AIS กล่าวว่า ในการทำงานร่วมกันเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่ถูกหลอกลวงสร้างความรำคาญจากแก๊งค์คอลเซนเตอร์รวมถึงภัยไซเบอร์อื่นๆเพราะปัจจุบันเราทราบปัญหาจากทางวิฉาชีพละเมิดการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนสร้างเดือดร้อนความรำคาญไปจนถึงความเสียหายทรัพสินและข้อมูลทางบุคคลเพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนั้นในฐานะผู้ให้บริการทางดิจิตอลที่มีเป้าหมายสูงสุดคือการปกป้องข้อมูล การใช้งานในการสื่อสารของลูกค้าจึงมีการดำเนินงานเป้าหมายนี้มาอย่างต่อเนื่อง