"ญี่ปุ่น" จ่อให้ไทยกู้เงิน 5 หมื่นล้านเยน พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพโครงการตรวจเชื้อไวรัสบริเวณด่านพรมแดน

"ญี่ปุ่น" จ่อให้ไทยกู้เงิน 5 หมื่นล้านเยน

"ญี่ปุ่น" จ่อให้ไทยกู้เงิน 5 หมื่นล้านเยน พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพโครงการตรวจเชื้อไวรัสบริเวณด่านพรมแดน





ad1

วันนี้ 3 พ.ค. 65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวร่วมกับ นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ภายหลังหารือข้อราชการแบบเต็มคณะ และลงนามข้อตกลงความร่วมมือว่า รู้สึกยินดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้พบปะหารือกันในโอกาสครบรอบ 135 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต และในฐานะที่ไทยดำรงตำแหน่งเลขาธิการความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะเป็นประธานเอเปคในเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย โดยประเด็นการหารือร่วมกันประกอบด้วย 6 เรื่องสำคัญคือ การพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในโอกาสครบรอบ 135 ปี ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นประโยชน์ที่จะหารือ ยกระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน เพื่อแสดงถึงความแน่นแฟ้น และความเจริญก้าวหน้าถึงความสัมพันธ์

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ด้านการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในอนาคตนั้น ไทยและญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในระยะ 5 ปี ซึ่งมีแผนที่จะประกาศใช้ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับไทยญี่ปุ่นครั้งที่ 6 ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ด้านการเสริมสร้างและฟื้นฟู หลังสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 นายกรัฐมนตรีไทยขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่น ที่ได้ให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนการแก้ไขปัญหา โควิด-19 ทั้งการมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เครื่องผลิตออกซิเจนและอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บวัคซีน รวมทั้งการประกาศเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งมีการลงนามแลกเปลี่ยน โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขณะที่ด้านความมั่นคงและความยุติธรรม ได้มีการลงนามมอบโอนยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างด้านการป้องกันประเทศด้วย ด้านการเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาภูมิภาคและอนุภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาระหว่างกัน โดยเฉพาะการดำเนินงานในประเทศที่ 3 อย่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ด้านการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศนั้น ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อสถานการณ์ในยูเครน-รัสเซีย โดยไทยและญี่ปุ่นเน้นย้ำกฎหมายระหว่างประเทศ และบทบาทของสหประชาชาติและมีความกังวลต่อความตึงเครียดในสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งไทยเสนอได้สนับสนุนแนวทางกระบวนการสันติภาพ โดยคำนึงถึงมนุษยธรรม และแนวทางการเยียวยาผู้เดือดร้อนจากสงคราม

ด้าน นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากรัฐบาลไทย และยินดีที่ได้มาเยือนไทยในโอกาสครบรอบ 135 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นพร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นการร่วมมือไปสู่ความหลากหลายในด้านฐานการผลิต, การพัฒนาเทคโนโลยี 5g และความร่วมมือระหว่างบริษัทญี่ปุ่นและไทยเพื่อแก้ไขปัญหาทางสังคม โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ขณะที่การรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับรัฐบาลไทยจำนวน 5 หมื่นล้านเยน ในลักษณะเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในโครงการตรวจเชื้อไวรัสบริเวณด่านพรมแดน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยในการตัดสินใจสนับสนุนข้อมติของสหประชาชาติเรื่องความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย และเห็นพ้องกับนายกรัฐมนตรีไทย ที่ไม่สามารถยอมรับการละเมิดอธิปไตย โดยการใช้กำลังเพียงฝ่ายเดียว

ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วม นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เยี่ยมชมนิทรรศการศิลปหัตถกรรม ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก