เพจดังนำ 5 เซียนพนันที่ถูกรีดเงิน 5 ล้านเข้าพบ "สุรเชษฐ์"ร้องบ่อนพนันทั่วกทม.-ปริมลฑลมีกว่า 100 แห่ง-บิ๊กโจ๊กลั่น ถ้ามีจริง กวาดให้หมด

01 พ.ย. 2565  จากกรณีที่กลุ่มเซียนพนันจำนวน 5 ราย ร้องเพจดังให้ช่วยเหลือ โดยอ้างว่าถูกบ่อนพนันย่านรามอินทราอุ้มตัวไปรีดเงิน 5 ล้านบาท โดยทางบ่อนกล่าวหาว่าร่วมกันโกงพนัน 

ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ได้พาทีมงานสายไหมต้องรอดและเซียนพนันทั้ง 5 ราย เข้า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เพื่อให้ข้อมูลเรื่องบ่อนการพนันที่มีกว่า 100 แห่งทั่วกทม.และปริมลฑล  โดยทางเซียนพนันยอมรับว่าหากตนจะโดนคดีก็พร้อมรับ

1 ใน 5 ผู้เสียหายเผยว่า จะนำข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนการพนันมามอบให้ รอง ผบ.ตร. แต่ยังเปิดเผยต่อหน้าสื่อไม่ได้ เพราะกลัวอันตราย ส่วนนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ให้ข้อมูลอ้างกับสื่อว่า พวกตนไม่ได้ถูกปล้นทรัพย์ ซ้ำยังเดินสายโกงบ่อนการพนัน จึงขอตั้งข้อสังเกตว่านายสันธนะ อยู่ในบ่อนตอนเกิดเหตุ หรือมีส่วนเกี่ยข้องกับการพนันด้วยหรือไม่ พร้อมปฏิเสธว่าไม่เคยโกงเงินจากบ่อนการพนัน เพราะคงไม่มีนักพนันรายใดกล้าไปทะเลาะกับบ่อนพนัน ส่วนเรื่องการใช้โปรแกรมโกงพนันหากมีอยู่จริง นักพนันทั้งประเทศคงรวยกันหมดแล้ว หากพวกตนโกงจริงก็คงรวยกันไปแล้วเช่นกัน

ทางผู้เสียหายได้กล่าวต่อว่า การออกมาเรียกร้องวันนี้ เพราะต้องการความเป็นธรรม ในฐานะที่เป็นผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมจะต่อสู้เต็มที่และเล่าความจริงให้ฟัง ยอมรับว่าหลังเป็นข่าวตอนนี้คดีเร็วไว ทั้งที่ตอนแรกแทบไม่เดินเรื่อง

ผู้เสียหาย อ้างว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีบ่อนการพนันหลายพื้นที่ และผู้มีอิทธิพลก็คอยดูแลผลประโยชน์จากบ่อนพนัน ยืนยันว่าเคยไปเล่นพนันในบ่อนมานับหลายสิบแห่ง และหลายแห่งยังเปิดให้บริการอยู่จนถึงวันนี้ แต่ส่วนใหญ่จะปิดในช่วงเดือนตุลาคม เพราะเป็นฤดูการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ

นายเอกภพ กล่าวว่า จากที่ตนทราบเชื่อว่าพื้นที่ตำรวจนครบาลไม่น่าจะมีบ่อนการพนัน แต่มีข้อมูลว่าในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) ยังคงมีบ่อนเปิดอยู่ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะมอบให้กับ รอง ผบ.ตร.รับเรื่องไว้ต่อไป ส่วนเรื่องที่นายสันธนะ ออกมาให้ข้อมูลนั้น เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าในประเทศไทยมีบ่อนพนันจริง

ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เกิดมาหลายเดือนแล้ว ซึ่ง ผบ.ตร.สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนจึงเชิญเพจสายไหมต้องรอดให้พาผู้เสียหายมาพบ พื่อตรวจสอบและสืบสวนข้อเท็จจริง คดีนี้จะแบ่งเป็นเรื่องการอุ้มนักพนันไปกักขังหน่วงเหนี่ยว และหากมีบ่อนพนันมีจริง ก็ถือว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย ซึ่งมีคำสั่งย้าย ผกก.สน.โคกคราม แล้ว สำหรับผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกอุ้มไปรีดทรัพย์ ถ้าสืบทราบว่าเข้าไปเล่นพนันก็มีความผิดเช่นกัน

ส่วนกรณีผู้เสียหายอ้างว่ามีบ่อนพนันกว่าร้อยแห่งทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ถ้าพบว่ามีอยู่จริง ก็ต้องกวาดล้างปราบปรามให้หมด ซึ่งตำรวจระดับผู้บังคับการและผู้กำกับการสถานีจะต้องทราบว่าในพื้นที่ตัวเองมีบ่อนการพนันหรือไม่ หลังได้รับข้อมูลแล้วพบว่ามีบ่อนการพนันในพื้นที่ใดจะรายงานให้ ผบ.ตร.ทราบ ก่อนเร่งดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาต่อไป