ชายเมายาคลุ้มคลั่งเผาบ้านและใช้ปืนยิงปลายิงขาพ่อตนเอง ซอยสุขสวัสดิ์ 18 

เมายาคลั่งเผาบ้าน-ยิงขาพ่อ

ชายเมายาคลุ้มคลั่งเผาบ้านและใช้ปืนยิงปลายิงขาพ่อตนเอง ซอยสุขสวัสดิ์ 18 





ad1

ชายเมายาคลุ้มคลั่งเผาบ้านและใช้ปืนยิงปลายิงขาพ่อตนเอง ซอยสุขสวัสดิ์ 18 
.
วันนี้ (12 ต.ค.64) ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุชายคลั่ง จุดไฟเผาบ้านพักของตนเอง ภายในบ้านพักคนงานโรงหล่อเพาะเหล็ก ตั้งอยู่เลขที่ 145 หมู่ 7 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 18 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

.
ที่เกิดเหตุเป็นโรงเหล็กเก่าปัจจุบัน ยุติการดำเนินกิจการไปแล้ว จากการตรวจสอบบริเวณบ้านพักคนงานซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารสูง 2 ชั้น และยังมีลูกจ้างคนเก่าคนแก่ของโรงงานอาศัยอยู่ไม่กี่คน พบกลุ่มควันและแสงเพลิง พวยพุ่งออกมาจากห้องพักบริเวณชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่สายตรวจและหน่วยกู้ภัยพยายามขึ้นไประงับเหตุเพลิงไหม้แต่ปรากฏว่า มีนายเอกชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้พักอาศัย ที่อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งเหมือนคนมึนเมายาเสพติด ถืออาวุธปืนยาวด้ามไม้ ดัดแปลงใส่เหล็กเส้นที่เอาไว้ใช้ยิงปลา ข่มขู่ปิดประตูห้องไว้ไม่ให้ใครเข้าไปภายใน เจ้าหน้าที่จึงต้อง ประสานญาติของ นายเอกชัย เข้ามาเพื่อร่วมไกล่เกลี่ย


.
ขณะนั้น นายสูรย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี พ่อของ นายเอกชัย ได้อาสาขึ้นไปบนห้องพักเพื่อเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำงานได้สะดวก ขณะที่ นายสูรย์ เปิดประตูได้นั้น กลับถูก นายเอกชัย ผู้เป็นลูกชาย ใช้ปืนยิงปลาลั่นไกส่งเหล็กแหลมพุ่งเข้าใส่ต้นขาข้างซ้ายทันที จากนั้น นายเอกชัยได้อาศัยช่วงชุลมุน กระโดดลงจากห้องพัก หลบหนีไปทางท้ายซอยสุขสวัสดิ์ 18 ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงจนสงบ และช่วยกันนำตัว นายสูรย์ ส่ง รพ.ราษฎร์บูรณะ ให้แพทย์ทำการผ่าเหล็กยิงปลาที่ฝังอยู่ในต้นขาอย่างเร่งด่วน ตรวจสอบบริเวณไฟไหม้พบที่นอน แอร์ เสื้อผ้า ได้รับความเสียหาย


.
จากการสอบสวน นางณัชชา (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี แม่ของนายเอกชัย เล่าว่า อาศัยอยู่ในโรงงานแห่งนี้ อยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูก โดยลูกชายไม่ได้ทำงาน ติดยาอย่างหนัก ชอบเมาอาละวาดเป็นประจำ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าไปเอาเงินที่ไหนมาซื้อยา บางวันก็มีเงินเป็นพัน บางวันไม่มีก็ขอตน และมักทุบตีตนและสามีเป็นประจำ วันเกิดเหตุมีอาการกำเริบตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ตนและสามี จึงพากันออกจากห้องพักเนื่องจากเกรงว่าจะถูกลูกชายทำร้ายร่างกาย กระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายเอกชัย เริ่มมีอาการหนักขึ้น มีการทำลายข้าวของขว้างปาขวด สิ่งของ และขนเสื้อผ้าเข้าไปในห้องข่มขู่ว่าจะจุดไฟ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือและเรื่องเกิดบานปลายขึ้นดังกล่าว


.
สำหรับแนวทางการติดตามจับกุม นายเอกชัย มาดำเนินคดี ขณะนี้ได้ประสานฝ่ายสืบสวน กับเจ้าหน้าที่สายตรวจทั้ง สน.ราษฎร์บูรณะ และโรงพักข้างเคียงให้ช่วยกันตามล่าแล้ว เชื่อว่า จะสามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้า.