"ชัยวัฒน์" พร้อมทนาย เข้าพบดีเอสไอ รับทราบข้อหาเพิ่มคดีบิลลี่ บอกไม่หนักใจ

"ชัยวัฒน์" เข้าพบดีเอสไอ รับทราบข้อหาเพิ่มคดีบิลลี่

"ชัยวัฒน์" พร้อมทนาย เข้าพบดีเอสไอ รับทราบข้อหาเพิ่มคดีบิลลี่ บอกไม่หนักใจ





ad1

31 ส.ค. 2565  ดีเอสไอ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชั้น 7 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อม นายบุญแทน บุษราคำ นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และ นายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ รวม 4 ราย ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 13/2562 ในคดีฆาตกรรม นายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เดินทางเข้าพบ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อหา “ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง” ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 309 ภายหลังพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ส่งหนังสือแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ เดินทางมาพร้อมกับทนาย โดยสวมเสื้อสีดำ ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 3 คนที่ถูกสั่งฟ้องสวมชุดลายพรางของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อหาใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่น ซึ่งเห็นว่าเป็นการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ตามกระบวนกานยุติธรรม เพราะหากมีการแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่า ก็คงต้องมีเรื่องอาวุธมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไรสำหรับหลักฐานที่จะใช้สู้คดีในชั้นศาลนั้น ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เคยได้เห็นพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนเลย ได้เห็นเพียงแต่จากข่าวว่ามีเรื่องโครงกระดูก แต่ไม่รู้รายละเอียด ซึ่งคงต้องรอให้ถึงวันนัดตรวจพยานหลักฐาน ตามกระบวนการของชั้นศาล แล้วได้เห็นพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ที่ผ่านมาต้องตกเป็นจำเลยสังคมในเรื่องนี้มาตลอด นายชัยวัฒน์ ตอบว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจ ส่วนคนที่ยังสงสัย ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาทำงานปกป้องป่าและสัตว์ป่ามาตลอดชีวิตเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่เคยทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และกลับกลายเป็นผู้ถูกคุกคามจากหลายฝ่ายเสียเอง

ด้านนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ เผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้เรียก นายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามกฎหมายอาญา มาตรา 83, 309 ข้อหา “ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง” ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่หนักใจเพราะทำตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา โดยวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะนัดส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการสั่งฟ้องศาลและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน

นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ นายชัยวัฒน์ กับพวก กลับมารับราชการอีกครั้งนั้น จะไม่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้กดดัน เพราะในชั้นสอบสวนดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และจะส่งให้ชั้นอัยการพิจารณาต่อไป สำหรับการที่นายชัยวัฒน์ อ้างว่าถูกคุกคามนั้นยังไม่มีรายละเอียด

ต่อมา เวลา 11.30 น. นายชัยวัฒน์ เปิดเผยหลังพบพนักงานสอบสวน ว่า เบื้องต้นในชั้นสอบสวนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ต้องทำลายลักษณ์อักษรชี้แจง และในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. นัดหมายกับดีเอสไอ เพื่อเดินทางไปสำนักงานอัยการ ถนนรัชดาภิเษก ส่งฟ้องศาลทันที