ล่าพ่อค้ารายใหญ่ ส่งยาบ้าข้ามถิ่นเข้าอุทัย ฯ หลายพันเม็ดตำรวจไล่ล่ามาเป็นปีกว่าจะเจอตัว

ล่าพ่อค้ารายใหญ่ ส่งยาบ้าข้ามถิ่นเข้าอุทัย ฯ หลายพันเม็ดตำรวจไล่ล่ามาเป็นปีกว่าจะเจอตัว





ad1

เมื่อเวลา  02.00น.วันที่ 26 พ.ค.67 ร.ต.อ.มณเทียน  จำเรียง  รอง สว.สส.สภ.บ้านไร่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี  ได้จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 คน  นายเกรียงศักดิ์ หรือ บัง คงเกิด อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 23 หมู่ 4 ตำบลปากน้ำ อำเภอเดิมบางนางบวช  จังหวัดสุพรรณบุรี และ  น.ส.สุวรรณี หรือ กิ๊บ มากุลชร อายุ 37 ปี  บ้านเลขที่ 79 หมู่ 2 ตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท  จังหวัดชัยนาท บริเวณบ้านเลขที่ 181  หมู่ 9 ตำบลคอกควาย อำเภอบ้านไร่  จังหวัดอุทัยธานี  

พร้อมด้วยของกลาง  (ยาบ้า) จำนวน 5,366 เม็ด ยาบ้าเม็ดสีส้มลักษณะกลมแบน ด้านหนึ่งเรียบอีกด้านมีตราอักษร WY จำนวน 5,312 เม็ด และยาบ้าเม็ดสีเขียว จำนวน 54 เม็ด  ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายสีน้ำเงินที่นายเกรียงศักดิ์หรือบังฯสะพายอยู่ขณะเดินเข้ามาพบกับสายลับพร้อม รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA สี ดำ ทะเบียน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่นายเกรียงศักดิ์ หรือบังฯ และน.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯขับขี่นำยาบ้ามาขายให้กับสายลับ  โทรศัพท์ของนายเกรียงศักดิ์หรือบังฯ  พบอยู่ในกระเป๋าสะพายที่เดียวกับของกลางยาบ้า โทรศัพท์มือถือยี่ห้อของน.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯ พบอยู่ในกระเป๋าสะพายของน.ส.สุวรรณหรือกิ๊บฯ  น้ำปัสสาวะของนายเกรียงศักดิ์หรือบังฯ จำนวน 1 ขวด น้ำปัสสาวะของ น.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯ จำนวน 1 ขวด พบทั้ง 2 ในร่างกายมีสารเสพติดโดยกล่าวหาว่าจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย  ผู้ต้องหาที่ 1 นายเกรียงศักดิ์ คงเกิด เป็นผู้ขับขี่รถขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)อยู่ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย

พฤติการณ์ในการจับกุม  ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามพฤติการณ์ของนายเกรียงศักดิ์  หรือบัง คงเกิด มาโดยตลอด โดยนายเกรียงศักดิ์ฯ หรือบัง เป็นบุคคลนอกพื้นที่  มีพฤติการณ์นำยาบ้าเข้ามาลักลอบ ขายให้กับผู้ค้ารายย่อย  ในพื้นที่อำเภอบ้านไร่  ต่อมา ร.ต.อ.มณเทียนฯ ได้พบกับสายลับแจ้งให้ทราบว่ามี นายบัง ไม่ทราบชื่อจริง และเคยนำยาบ้าเข้ามาขายให้กับนายต้นหนาว ประคงบุญ หลังจากนั้นร.ต.อ.มณเทียนฯ ให้นาต้นหนาว  สั่งซื้อยาบ้าจากนายเกรียงศักดิ์หรือบังฯ ได้ ในราคามัดละ 19,000 บาท(2,000เม็ด)  จำนวน 2 มัด(4,000เม็ด) นายเกรียงศักดิ์หรือบังฯ แจ้งให้เตรียมเงินสดไว้ จำนวน 38,000 บาท ประมาณไม่เกินเที่ยงคืนนายเกรียงศักดิ์หรือบังฯจะเข้าไปส่งยาบ้า  ที่บ้านพักที่เกิดเหตุเพื่อซื้อขายยาบ้ากัน ต่อมาเวลาประมาณ 00.10 น. นายเกรียงศักดิ์หรือบังฯได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามา  โดยมี น.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯ นั่งซ้อนท้ายมา ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าบ้านพัก และเดินเข้าไปพบกับสายลับที่นั่งรออยู่ในบ้านพักดังกล่าว 

ร.ต.อ.มณเทียนฯ พร้อมกับพวกซึ่งซุ่มอยู่บริเวณในบ้านพักได้ออกจากจุดซุ่ม เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจพร้อมกับควบคุมตัวนายเกรียงศักดิ์หรือบังฯและ น.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯไว้
 
หลังจากนั้น ร.ต.อ.มณเทียนฯได้แสดงบัตรเป็นเจ้าพนักงาน ปปส. ให้นายเกรียงศักดิ์หรือบังฯและน.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯ ดู นายเกรียงศักดิ์หรือบังฯและ น.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯทราบและให้การยอมรับว่าตนเองทั้งสองกำลังนำยาบ้ามาขายให้กับสายลับจำนวน 2 มัด(4,000เม็ด) ตามที่สายลับติดต่อสั่งซื้อไว้ในราคา 38,000 บาท และจากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 5,366 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำเงินของนายเกรียงศักดิ์หรือบังฯที่สะพายอยู่ขณะเข้ามาพบกับสายลับ

จากการสอบถามขยายผลนายเกรียงศักดิ์หรือบังฯและน.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯ ให้การว่านายเกรียงศักดิ์หรือบังฯเป็นผู้ติดต่อซื้อยาบ้าจากนายอ้วน ไม่ทราบชื่อจริง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ครั้งละ 3-4 มัด ราคามัดละ 15,000 บาท(2,000เม็ด) เพื่อนำมาขายต่อให้กับสายลับและผู้ค้ารายอื่นๆราคามัดละ 19,000 บาท(2,000เม็ด) โดยเงินค่าซื้อขายยาบ้านั้นตนเองจะรับเป็นเงินสดและเงินโอน  โดยตนเองเคยให้โอนเงินค่ายาบ้าผ่านทางบัญชี ของ น.ส.สุวรรณี  มากุลชร  ผู้ถูกจับทั้งสองให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหาจากนั้นจึงได้นำตัวนายเกรียงศักดิ์หรือบังฯและน.ส.สุวรรณีหรือกิ๊บฯ  ผู้ถูกจับ พร้อมด้วยของกลางข้างต้น นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป