ทส.บูรณาร่วมกับจังหวัดชัยภูมิส่งฮ.พร้อมอุปกรณ์เสริมช่วยแก้หมอกควัน

ทส.บูรณาร่วมกับจังหวัดชัยภูมิส่งฮ.พร้อมอุปกรณ์เสริมช่วยแก้หมอกควัน





ad1

ทส.บูรณาร่วมกับจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน PM2.5 ส่ง เฮลิปคอปเตอร์ พร้อมอุปกรณ์เสริมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 17 กพ. 67 จากสถานการณ์ไฟป่าและหมอควันก่อให้เกิดฝุ่นควันและมลพิษ PM2.5 สาเหตุเกิดจากคนเพียงกลุ่มเดียว ที่ใช้การเผาทุ่งหญ้า ไร่อ้อย และป่า เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน จนก่อเกิดความเดือดร้อนให้กับประชาชนในชุมชน ทั้งนี้ฝุ่นละอองสามารถกระจายไปทั่วภูมิภาคไกลกว่า150กม.  โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ที่กำลังจะวิกฤตในขณะนี้

ล่าสุด นายวันชัย จริยาเศรษฐโชค ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับข้อสั่งการและความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ตำบลนางแดด อำเภอหนองบัวแดง และพื้นที่อนุรักษ์ในจังหวัดชัยภูมิ 

โดยมี นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ  พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7  (นม) นายอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยภูมิ หน. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว นายอำเภอเขตรอยต่อทั้ง5อำเภอ หน.ส่วนราชการ ปภ.ชัยภูมิ ผู้นำท้องถิ่น จนท.ดับไฟป่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

ต่อมาเวลา 11.30 - 12.00 น. นายสมบัติ ไตรศักดิ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ รายงานสภาพทั่วไปของตำบลนางแดด อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ มีอาณาเขตติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และรายงานการบูรณาการของหน่วยงานในท้องที่ร่วมดำเนินการดับไฟ การเฝ้าระวังผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก และช่วยสนับสนุน เสบียง กำลังพล ส่วนการดับไฟให้เป็นผู้ที่มีความชำนาญผ่านการอบรมหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว รายงานสถานการณ์ไฟป่าปัจจุบัน พบจุดความร้อนในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว ส่วนมากอยู่ในพื้นที่สูงชัน เกิน 45 องศา ซึ่งการใช้กำลังพลดับไฟเป็นไปได้ยาก จึงได้จัดทำแนวกันไฟและได้ทำการเผากลับ คาดว่าจะสามารถควบคุมไฟไว้ได้ภายใน 2 วัน เนื่องจากมีป่าไผ่ตายขุยหนาแน่นด้านบน

นายวันชัย จริยาเศรษฐโชค ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้แนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่ จัดกำลังพลที่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญในพื้นที่และวิธีการดับไฟเข้าควบคุมไฟและเตรียมกำลังพลสำรองและอุปกรณ์ให้พร้อมในพื้นที่ และให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยภูมิ ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้จัดจ้างกำลังพลดับไฟให้กับหน่วยงาน ทส.ที่มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 

ทั้งนี้นายวันชัย จริยาเศรษฐโชค ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยว่า รัฐบาลและรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติเองนั้นได้ให้ความสำคัญ และห่วงใยกับปัญหาเรื่องฝุ่นละอองหรือพีเอ็ม 2.5  แล้วมีการ สั่งการให้มีการประชุม และได้มอบนโยบายมาว่าจุดใด ที่มีค่าพีเอ็ม 2.5 สูงหรือเริ่มมีผลกระทบให้รีบแก้ไขเป็นการด่วนเพราะทางกระทรวงได้มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนโดยรอบซึ่งจะกระจายออกไปถึงจังหวัดข้างเคียงได้  ซึ่งทางกระทรวงก็ได้ส่งตนเองเข้ามาควบคุมอย่างเข้มข้น ทั้งยังเยี่ยมให้กำลังใจ แก่ จนท.ผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน โดยในครั้งนี้ได้มีการวางแผนบูรณาการร่วมกับจังหวัดชัยภูมิ  รวมทั้งมีการนำเฮลิคอปเตอร์เข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการดำเนินการ ให้เร็วที่สุดเพื่อแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้นและลุล่วงไปด้วยดี

หลังจากการขึ้นเฮลิปคอปเตอร์ ร่วมกับนักบินจากศูนย์เทคโนโลยีดิจิตอลและอากาศยานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้ง เพื่อตรวจสภาพพื้นที่ในการประเมินสถานการณ์ ซึ่งหลัง จากการบินตรวจสอบสภาพพื้นที่พบพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว ตรงตามจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบ `โดยยังคงมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังอีก 2 จุด เนื้อที่ประมาณ 15,000 ไร่  ซึ่งต้องใช้จนท.ดับไฟป่าในภาคพื้นดินและให้เฮลิปคอปเตอร์ใช้น้ำโปรยดับไฟ โดยบูรณาการกำลังนักบิน และชุดเสือไฟ จากขอนแก่น รวมทั้งกำลังสนับสนุนจากหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถควบคุม สถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายใน1- 2 วัน นี้  โดยให้จัดตั้ง War Room เพื่อรายงานสถานการณ์ผลการดำเนินการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทราบในแต่ละวัน เพื่อบูรณาการในการทำงานต่อไป

โดย...มัฆวาน  วรรณกุล  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค