นักธุรกิจแม่สอด ชี้การสู้รบในเมียนมา ส่งผลกระทบการค้าชายแดนรุนแรง

นักธุรกิจแม่สอด ชี้การสู้รบในเมียนมา ส่งผลกระทบการค้าชายแดนรุนแรง





ad1

นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ นักธุรกิจรายใหญ่ การค้าชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารชนกลุ่มน้อย กับทหารฝ่ายรัฐบาลเมียนมา ว่า เหตุการณ์การสู้รบ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการค้าชายแดน ด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี โดยตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประกอบการและพ่อค้า ชายแดนแทบจะไม่ได้ส่งสินค้าไปเมียนมาเลย ซึ่งในช่วงเวลานี้ตัวเลขการค้าชายแดนตกต่ำอย่างมาก เรียกว่าการค้าชะงักค่อนข้างรุนแรง

นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ กล่าวอีกว่า ชนกลุ่มน้อย ได้ยึดพื้นที่ ได้ในหลายๆเมืองแล้ว รวมทั้งค่ายทหาร หรือที่ตั้งกองพันทหาร หลายๆแห่งทหารเมียนมาก็ถอนกำลังออกจากพื้นที่ รวมทั้งประชาชนชาวเมียนมาที่เป็นนักธุรกิจ และมีเงิน มีทอง ก็ เริ่มย้ายออกนอกเมืองสำคัญๆ และคาดว่าภายในระยะเวลาไม่นานนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเมียนมา ครั้งใหญ่ ในการบริหารประเทศ

ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่าในส่วนของสถานการณ์แนวชายแดนไทย=เมียนมา ฝ่ายปกครอง ร่วมกับทหาร มีการตรวจเข้มชายแดน เตรียมรับมือผู้ลี้ภัยหากมีความรุนแรง ซึ่งในส่วนของผู้นำกะเหรี่ยง ระบุว่ากองกำลังชนกลุ่มน้อย สามารถยึด จังหวัดกอกาเรก รัฐกะเหรี่ยงได้ร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมดแล้ว 

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนด้านจังหวัดตากถึงความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย เมียนมา  กรณีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่ประกอบไปด้วยทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(เคเอ็นยู) และทหารกองกำลังปกป้องประชาชน(พีดีเอฟ)  ในพื้นที่เมืองกากาเรก หมู่บ้านติ่นกานหยิ่นหน่อง จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และพื้นที่รอบนอกเขตจังหวัดมะละแหม่ง ที่ อ.มุโด่ง รัฐมอญ ยังคงมีการสู้รบกันอย่างต่อเนื่องฝ่ายเมียนมาพยายามส่งกำลังทหารเข้ายึดพื้นที่คืน แต่ไม่สามารถยึดคืนได้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และเพื่อความเป็นอิสระของกลุ่มชาติพันธุ์ ตั้งแต่มีการต่อสู้กันมาที่ฝ่ายต่อต้านสามารถยึดพื้นที่ได้

นายพลเนอดา เมียะ ผู้บัญชากองกำลังกอทูเล บุตรชายนายพลโบเมียะ  อดีตประธานาธิบดีสหภาพแห่งชาติ กะเหรี่ยงอิสระ เคเอ็นยู.กล่าวว่า ฝ่ายต่อต้านสามารถยึดพื้นที่จังหวัดกาเรกได้มากถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐได้ถอนตัวออกไป และขณะนี้ขอเตือนประชาชนไทยไม่ควรข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมา โดยเฉพาะที่ จ.เมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก เพราะจะได้รับอันตรายจากการสู้รบได้ 

ทางด้านนายอัครพันธุ์ พูลศิริ นายอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก พร้อมด้วยปลัดอำเภอ อส. อ.ท่าสิงยาง ร่วมกับทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 อ.แม่สอด ที่รับผิดชอบพื้นที่ อ.ท่าสองยาง ออกตรวจสอบสถานการณ์ชายแดนไทย เมียนมา ที่บ้านแม่ออกผาลู ตำบลแม่หละ อ.ท่าสองยาง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และดูสถานการณ์ชายแดนในเบื้องต้นสถานการณ์ยังปกติ และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ถ้าหากสถานการณ์รุนแรงก็มีแผนการเตรียมการดูแลผู้หนีภัยสงคราม หากมีการหนีภัยสงครามเข้ามา