หนุ่มครบุรีพลิกไร่มันปลูกกะหล่ำปลีโกยเงินแสนทุกปี

หนุ่มครบุรีพลิกไร่มันปลูกกะหล่ำปลีโกยเงินแสนทุกปี





ad1

นายรัษฎากร ตากิ่มนอก อายุ 47 ปี เกษตรกรบ้านโปร่งสนวน หมู่ที่ 7 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ในพื้นที่ไร่มันสำปะหลังจำนวน 5 ไร่ ที่ว่างเว้นหลังจากการเก็บเกี่ยวไปแล้ว นำมาปลูกผักกะหล่ำปีเพื่อสร้างรายได้ระหว่างรอฤดูกาลเพาะปลูกรอบใหม่ในปีหน้า เนื่องจากสภาพอากาศในขณะนี้ซึ่งเป็นฤดูหนาว เหมาะสมต่อการปลูกผักกะหล่ำ อีกทั้งภูมิประเทศที่อยู่ติดกับภูเขาของอุทยานแห่งชาติทับลาน จึงทำให้คุณภาพดินดีพอที่จะปลูกกะหล่ำได้  ทำให้กะหล่ำปลีตอนนี้งอกงามเตรียมที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในกลางเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้แล้ว 

และด้วยความที่กะหล่ำปลีกำลังให้ผลผลิตเขียวขจีเต็มแปลงสวนกับอากาศที่เริ่มแห้งแล้ง ทำให้เกิดความสวยงามดึงดูดสายตาของผู้ที่ผ่านไปผ่านมาจนต้องแวะเวียนมาเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันไม่ขาดสาย ขณะเดียวกันทางนายอุทัย หนูวุ่น เกษตรอำเภอครบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลลำเพียก ก็ได้ลงพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลการเพาะปลูกพืชทางเลือกที่ทำรายได้ดีในแต่ละช่วงเวลา  เพื่อเตรียมที่จะทำปฏิทินการเพาะปลูกพืชตามความต้องการของตลาดที่ทำรายได้ดีในแต่ละช่วง เพื่อส่งเสริมแนะนำให้เกษตรกรด้วยวิธีการใช้ตลาดนำการทำเกษตร  ซึ่งจะเป็นส่วนทำให้เกษตรกรมีแนวทางเลือกใหม่ที่จะทำการเกษตรเพิ่มรายได้ที่ดีมากยิ่งขึ้น

นายรัษฎากรฯ บอกว่า ในช่วงปลายปีหลังเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชหลัก  เป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูหนาวพอดี ทำให้สภาพเหมาะสมต่อการเพาะปลูกผักกะหล่ำที่เป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น และใช้น้ำน้อย อีกทั้งยังใช้เวลาปลูกไม่นานเพียงแค่สองเดือนเท่านั้น  จึงตัดสินใจทดลองปลูกเพื่อที่จะสร้างรายได้เสริมยามช่วงที่ต้องรอฤดูกาลเพาะปลูกมันสำปะหลังชุดใหม่ ซึ่งจะต้องรอรอบแรกประมาณเดือนมีนาคม  โดยหลังจากทดลองปลูกก็พบว่าได้ผลผลิตดีเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งแต่ละชุดกะหล่ำปลีจะให้ผลผลิตถึงไร่ละ 5 – 7 ตัน ถือเป็นผลผลิตที่สูง ขณะเดียวกันในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้กะหล่ำปลีมีราคาพุ่งสูงทุกปี

โดยราคากะหล่ำปลีเฉลี่ยที่เกษตรกรจะพออยู่ได้จะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 8 – 10 บาท แต่ในช่วงนี้ราคาจะสูงถึง 10 – 20 บาท  และตอนนี้เท่าที่รู้ราคาขยับขึ้นไปที่กิโลกรัมละ 15 บาทแล้ว  ทำให้กะหล่ำปลีกลายเป็นพืชเสริมที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัวของตนเองอย่างมาก เพราะแต่ละปีในพื้นที่ 5 ไร่ จะเก็บผลผลิตได้ไม่น้อยกว่ารอบละ 25 ตัน หากได้ราคากิโลกรัมละ 10 บาทขึ้นไปก็จะทำให้ได้เงินจากการปลูกกะหล่ำไม่น้อยกว่า 250,000 บาท เลยทีเดียว  อีกทั้งหลังจากการเก็บเกี่ยวกะหล่ำแล้ว หากปล่อยไว้ก็ยังจะเกิดยอดใหม่ขึ้นมาที่เรียกกันว่าแขนงกะหล่ำ สามารถเก็บไปขายได้อีกกิโลกรัมละประมาณ 20 บาท เรียกได้ว่าได้เงินสองต่ออีกด้วย  โดยตัวเองใช้ไร่มันสำปะหลังแปลงนี้ปลูกกะหล่ำเสริมมานานกว่า 10 ปีแล้ว.

โดย...ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา