ป.ป.ช.ชัยภูมิ จัดโครงการ STRONG-จิตพอเพียง รวม 16 อำเภอ
ชัยภูมิ :ด้วยสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยภูมิ กำหนดจัดโครงการ STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ส่งเสริมกิจกรรมและแผนงานปฏิบัติการ STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต (สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยภูมิ)
ณ ห้องประชุม โรงแรมสยามริเวอร์รีสอร์ท อ.เมืองชัยภูมิ เมื่อเวลา 9.00 น. กลุ่มสมาชิก STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ทั้ง 16 อำเภอ จำนวนกว่า 160 คน เดินทางมาร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมงาน พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่หัวหน้ากลุ่มชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดชัยภูมิ (สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยภูมิ) และให้การต้อนรับ นายยุทธพงศ์ ทรวงแสวง ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยภูมิ ประธานในการเปิดงานในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการสมาชิกชมรม STRONG -จิตพอเพียงต้านทุจริต จัดขึ้นเพื่อขยายการนำโมเดล STRONG-จิตพเพียงต้านทุจริต ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน ตลอดจนถึงการดำรงตนส่วนหนึ่งของสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต และนำไปสู่การร่วมกันเป็นเครือข่ายจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) ให้กับสำนักงาน ป.ป.ช. โดยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ดำเนินการขยายเครือข่ายในพื้นที่ กำหนดผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย โค้ช คณะกรรมการ สมาชิกชมรมฯ และเจ้าหน้าที่โครงการ จำนวน 160 คน
ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยภูมิ บรรยายหัวข้อ แนวคิดโมเตล STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต การจับตามองการดำเนินโครงการ/กิจกรรมของหน่วยงานของรัฐ เกี่ยวกับการดำเนินโครงการพัฒนาโครงการพื้นฐานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิโดย โค้ชและเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยภูมิ ทบทวนธรรมนูญชมรมฯ และทบทวนโครงสร้างและบทบาท หน้าที่ของคณะกรรมการชมรมโดย โค้ซ/คณะกรรมการ/สมาชิกชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดชัยภูมิกำหนดประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริต การกระทำผิดกฎหมาย
การขัดกันของผลประโยชน์ หรือความเดือดร้อนของประชาชนอันอาจเกิดจากการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อวางแผ่นการลงพื้นที่จับตามมองและแจ้งเบาะแส และจะได้มีการดำเนินการตามระบบแบบแผนของสำนักงาน ป.ป.ช. ให้มีการกลับมาสู่กระบวนการที่ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ หรือหากพบการกระทำที่เกินกว่าที่สมาชิกชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต จะพึงกระทำได้ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช. เข้าไปดำเนินการ จนกว่าเรื่องราวนั้นๆ จะได้รับการแก้ไข หรือ อาจถึงขั้นส่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
