ไล่ยิงสนั่นบนถนนปลิดชีพกกล.บูรพาแฟนสาวรอดหวุดหวิด

ไล่ยิงสนั่นบนถนนปลิดชีพกกล.บูรพาแฟนสาวรอดหวุดหวิด





ad1

ปราจีนบุรี-กระบะขับรถปาดหน้าแซงขึ้นประกบไล่ยิงสิบเอกหนุ่มจาก กกล.บูรพา ก่อนเปิดฉากยิงกันสนั่นกว่า 10 กิโลเมตร ทหารพลาดท่าถูกยิงรถตกข้างทางดับคาที่ ส่วนแฟนสาวรอดหวุดหวิด บริเวณเส้นทางถนนสาย 359 สายสระแก้วตัดใหม่

ร.ต.ท.กิตติพงษ์ สีหะบุตร  พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 26 พ.ย. 66ว่า มีเหตุยิงกันที่บริเวณหลัก กม.ที่ 66 ถนนสาย 359 (สระแก้วตัดใหม่) หมู่ที่ 8 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มุ่งหน้าจังหวัดสระแก้ว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และได้เสียชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว

หลังจากรับแจ้ง พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ หมู่ 10 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ ทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ สิบเอกเอกรัตน์ เสืออ่ำ อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 78 หมู่ที่ 5 ต.ซับมะกรูด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว สังกัดตอนซ่อมบำรุง สส.น.กกล.บูรพา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดเข้าที่บริเวณไหล่ซ้าย 1 นัด  กระสุนทะลุปอด 

จากการสอบถาม น.ส.มนธิชา ปุงปดพาน อายุ  25 ปี แฟนผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนพร้อมแฟนได้ขับรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้า 4 ประตู สีบรอนซ์-เทา ทะเบียน กน 5508 ปราจีนบุรี มาจากจังหวัดสระบุรีเพื่อมุ่งหน้าจังหวัดสระแก้ว โดยใช้เส้นทางถนนสาย 359 (สระแก้วตัดใหม่) ขณะที่กำลังขับมาตามเส้นทาง เหมือนตอนแรกคู่กรณีแซงเราไป  แฟนก็ขับเทียบกันไปประมาณครั้งสองครั้ง ล่าสุดแฟนก็แซงเขาไปอีกครั้งหนึ่ง คู่กรณีก็เทียบยิงเข้ามาผ่านหนูและไปถูกแขนแฟน ตอนไล่แซงกันตอนเกิดเหตุมันมืด ตนก็ไม่รู้ว่าช่วงไหนและก็ไม่เคยมาทางนี้  ไล่ยิงกันมาเป็นระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร  

พอขับมาเทียบกันก็ยิงเลย เป็นรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีทอง ยกสูง  จำทะเบียนไม่ได้ เพราะขับเร็วมาก ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร คิดว่าทำไมคันนี้นิสัยเสียจัง บีบแตรใส่กัน มันมืดตนก็ไม่รู้ เรารู้ตัวว่ามีปัญหากัน  ตั้งแต่ช่วงใดไม่แน่ใจ เพราะมืดและเร็วมาก ก็รู้ว่าออกจากแปดริ้วมาสักพักและไม่เคยมีอะไรกัน ตนถามแฟนว่าโดนเธอไหม ก็ยังมีสติแป๊บนึงแล้วก็เสียหลักลงข้างทางไปเลย ตนจึงเอาโทรศัพท์ให้พี่ที่ผ่านมาอีกคนโทรหาตำรวจ

น.ส.มนธิชา กล่าวต่อว่า ตนเองพร้อมแฟนกำลังจะเดินทางไปส่งแฟนเข้าทำงานในวันพรุ่งนี้ และจะลอยกระทงด้วยกันพร้อมเอาซองงานแต่งงานไปแจก ในเรื่องนี้ต้องการให้ตำรวจดำเนินการติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ด้วย และต้องการฝากถึงคนที่ฆ่าแฟนว่าการที่ทำแบบนี้มันโหดร้ายเกินไป ไม่ควรทำแบบนี้ ตอนนี้ตนเองต้องอยู่คนเดียว คงไม่มีใครอีกแล้ว

ต่อมา นายณรงค์ เสื่ออ่ำ อายุ 59 ปี และนางเอ็มไพร เสื่ออ่ำ อายุ 51 ปี (พ่อ-แม่ผู้เสียชีวิต) หลังจากทราบข่าวได้เดินทางไปดูศพลูกชายที่หน้า สภ.ศรีมหาโพธิ เมื่อเดินทางไปถึงพ่อ-แม่ ถึงกับร้องไห้แทบจะขาดใจ พร้อมพูดกับศพลูกว่าทำไม่ต้องเป็นแบบนี้ พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายเป็นคนดี เป็นทหารมาได้ 3 ปี หลังจากจบชั้น ม.6 ก็สอบนักเรียนนายสิบได้ก็บรรจุเป็นทหารที่ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี และไปช่วยราชการที่กองกำลังบูรพา อ.วัฒนานคร ในวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะกลับบ้านไปหาแม่ ซึ่งลูกชายกำลังจะแต่งงานในวันที่ 21 ม.ค. 67 ในเรื่องนี้ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายมาให้ได้ ส่วนศพลูกชายจะรับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน