'อี้ แทนคุณ' ร้อง 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก'ส่งจม.โน้มน้าวผู้เสียหายให้ถอนแจ้งความ

'อี้ แทนคุณ' ร้อง 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก'ส่งจม.โน้มน้าวผู้เสียหายให้ถอนแจ้งความ





ad1

“อี้ แทนคุณ” ร้อง “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ร่อนจดหมายจากในคุก มีตราประทับครบ ส่งหาผู้เสียหายกว่า 200 คน เนื้อความโน้มน้าวให้ถอนแจ้งความ มีคนหลงเชื่อแล้วกว่า 100 คน ทำให้คดีล่าช้าออกไปอีก

เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ยื่นเอกสารเพิ่มให้ พงส.บก.ป.ตรวจสอบ เครือข่ายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ยังคงหลอกลวงผู้เสียหายอยู่

นายแทนคุณ ตัวแทนผู้เสียหาย ร้องตำรวจกองปราบฯ เร่งตรวจสอบจดหมายหลุดจากกรมราชทัณฑ์ โน้มน้าวผู้เสียหายคดีประสิทธิ์ เจียวก๊ก ถอนแจ้งความ เหยื่อหลงเชื่อถอนแจ้งความกว่า 100 ราย ส่งผลให้คดีล่าช้า

คดีประสิทธิ์ เจียวก๊ก หลอกร่วมลงทุน นำเอกสารหลักฐานซึ่งเป็นจดหมายของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ที่เขียนด้วยลายมือและมีการตราประทับว่าผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ส่งให้กลุ่มผู้เสียหายในคดีกว่า 200 คนมายื่นให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามฯ ดำเนินการตรวจสอบ ว่าเอกสารหลักฐานดังกล่าวเป็นของจริงและเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่

โดย นายแทนคุณ กล่าวว่า คดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 1,000 คน ความเสียหายหลายพันล้านบาท ซึ่งคดีนี้อยู่ในกระบวนการของศาล ทรัพย์สินของนายประสิทธิ์ ถูก ป.ป.ง. ดำเนินการยึดทรัพย์เพื่อนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย อีกทั้งก่อนหน้านี้ นายประสิทธิ์ฯ ออกมาระบุเองว่าไม่มีทรัพย์สินหลงเหลืออยู่แล้ว แต่เหตุใดวันนี้กลับมีจดหมายฉบับนี้ออกมา ซึ่งเนื้อหาสาระในจดหมายมีการโน้มน้าวให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ และระบุว่าจะเริ่มทยอยจ่ายเงินคืนให้กับผู้เสียหายที่ถอนแจ้งความแล้ว จำนวน 5 รอบ โดยรอบแรกจ่ายในวันที่ 29-31 มีนาคม 2566 และรอบที่สองวันที่ 1-15 มกราคม 2567 โดยมอบอำนาจให้ “คุณฝน” หัวหน้ากลุ่มและเป็นคนสนิทของนายประสิทธิ์ ซึ่งนายแทนคุณฯ ระบุว่า “คุณฝน” เป็นอดีตผู้สมัคร สส. กทม. เป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย

นอกจากนี้ นายแทนคุณฯ ยังระบุว่า จากเอกสารที่ตนค้นหามาได้พบว่า หลังจากนายประสิทธิ์ ถูกดำเนินคดีไปแล้ว แต่ 1 ในบริษัทย่านอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ กลับมีการเปลี่ยนแปลงตัวกรรมการบริหารจากนายประสิทธิ์ฯ เป็นบุคคลอื่น ซึ่งหากทรัพย์สิทนของนายประสิทธิ์ฯ ถูกทางการอายัดทั้งหมดแล้ว แต่ทำไมถึงยังมีการดำเนินการในกิจการดังกล่าวอยู่และมีหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาได้ จึงอยากฝากให้พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว และขอให้เร่งรัดคดีกลุ่มบุคคลซึ่งให้ความช่วยเหลือนายประสิทธิ์ฯ หลบหนีออกจากศาลในระหว่างพิจารณาคดีที่ศาลอาญารัชดา และทำการตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มีความเกี่ยวข้องในทั้ง 2 ประเด็นหรือไม่ ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับจดหมายโน้มน้าวให้ถอนแจ้งความ 

ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยนำจดหมายฉบับนี้ไปปรึกษาอัยการ และทางอัยการระบุว่าเอกสารเหล่านี้ถือเป็นการหลอกลวงผู้เสียหายซ้ำซาก และกรมราชทัณฑ์ปล่อยให้จดหมายฉบับนี้หลุดออกมาจากเรือนจำไปถึงผู้เสียหายได้อย่างไร จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อคดี เพราะล่าสุดมีบุคคลที่เชื่อมั่นในจดหมายดังกล่าว ยอมถอนแจ้งความกว่า 100 ราย ซึ่งส่งผลกระทบต่อคดี พนักงานสอบสวนไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้ ต้องกลับไปแก้ไขสำนวนใหม่ เพราะมีผู้เสียหายถอนแจ้งความออกเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อมีผู้ถอนแจ้งความ สำนวนก็จะไม่เสร็จสิ้น คดีไม่เดินหน้า ผู้เสียหายที่รอการเยียวยาจากภาครัฐก็ไม่สามารถได้รับเงินคืน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในขณะนี้จากผู้เสียหาย 100 คนยังไม่ได้รับการยืนยันว่าได้รับเงินคืนหรือไม่

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเอกสารพบว่า มีบางข้อความในจดหมายโน้มน้าวจากนายประสิทธิ์ฯ ระบุอย่างชัดเจนว่า “หากตนไม่ได้รับการประกันตัวตามกำหนด ให้ระงับการจ่ายเงินเยียวยาหรือเลื่อนการชำระออกไปตามความเหมาะสม 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับหนังสือเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป