ผลผลิตไม่พอ ตลาดโลกแย่งซื้อข้าวไม่อั้น ดันราคาพุ่งทุบสถิติรอบ 20 ปีหลังอินเดียงดส่งออกตลาดโลก

ผลผลิตไม่พอ ตลาดโลกแย่งซื้อข้าวไม่อั้น ดันราคาพุ่งทุบสถิติรอบ 20 ปีหลังอินเดียงดส่งออกตลาดโลก





ad1

นบข.เผย ข้าวเปลือกราคาพุ่งกระฉูดทุบสถิติในรอบ 20 ปี  ล่าสุดราคารับซื้อข้าวเปลือกในประเทศไทย  พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เหตุประเทศอินเดีย งดส่งออกข้าวตลาดโลก

นายสุเทพ คงมาก กรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เปิดเผยว่า ในช่วง1-2 สัปดาห์ ราคารับซื้อข้าวเปลือกในประเทศไทย สูงขึ้นทุกชนิด ซึ่งเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20 ปี สาเหตุเป็นเพราะ ประเทศอินเดีย งดการส่งออกข้าว อันนเนื่องมาจากความกังวลหลายอย่าง จึงให้ให้ประเทศคู่ค้าข้าวที่เคยซื้อข้าวจากอินเดีย กลับมามีคำสั่งซื้อข้าวจากประเทศไทยจำนวนมาก ทำให้กำลังผลิตมีไม่เพียงพอ

ยกตัวอย่างข้าวที่ ซื้อ-ขาย ก่อนหน้านี้ คือ ข้าวเปลือกสายพันธุ์หอมปทุมเดิมซื้อ 8,000-8,500 บาท/ตัน ตอนนี้ขยับมาเป็น 11,500-12,000 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกที่เป็นข้าวขาว(ข้าวเจ้าทั่วไป)  เดิมซื้อ 8,000 บาท/ตัน ตอนนี้ขยับมาเป็น 11,500-12,000 บาท/ตัน,ข้าวเปลือกหอมมะลิ เดิมซื้อ 14,000 บาท/ตัน ตอนนี้ขยับมาเป็น 18,000 บาท/ตันและยังมีข้าวอื่นๆอีกหลายชนิดที่ปรับราคาขึ้น รวมถึงข้าวเหนียวด้วย

สุเทพ คงมาก กรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) กล่าวอีกว่า รัฐบาล ควรดูไว้ว่า ราคาข้าวดีขึ้นเพราะอะไร นั่นเป็นเพราะทั่วโลกปลูกได้น้อยลง และบางประเทศเริ่มไม่ส่งออกนอก ในขณะที่ความต้องการของตลาดทั่วโลก   ที่มีความต้องการสั่งซื้อมาก แต่การผลิตในไทยยังไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญรัฐบาล ควรสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง เช่น การรวมกลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่ ดำเนินการด้านแหล่งน้ำ รวมถึงปัจจัยการผลิตที่ค้องทำให้ถูกลงกว่านี้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งภาครัฐ

ทั้งเรื่องของการประกันราคา หรือจำนำข้าว สิ่งเหล่านี้ยังจำเป็นอยู่ เพราะจะทำให้เกษตรกรแข็งแกร่ง  และที่สำคัญรัฐจะต้องหาตลาดส่งออกข้าวเพิ่มให้เกษตรกรมีข่องทางจำหน่ายมากขึ้น

นอกจากมีรายงานว่า ในตลาดซื้อ-ขาย ข้าวเปลือกในประเทศไทย ช่วงนี้คึกคักอย่างมาก เพราะผู้ส่งออกข้าวต้องการข้าวเพื่อการส่งออก ทำให้ผู้ประกอบการ ต้องหาเช่าโกดังเพิ่อเก็บข้าวไว้รอการส่งให้กับผู้ส่งออก​