"เพื่อไทย"นำ 6 พรรค 228 เสียง ประกาศตั้งรัฐบาล ย้ำสลายขั้วทุกฝ่าย มั่นใจได้เสียงโหวตเกินกึ่งหนึ่ง

เพื่อไทย แถลงจัดตั้งรัฐบาลเพิ่มอีก 6 พรรค รวม 228 เสียง ย้ำสลายขั้วการเมืองทุกฝ่าย เดินหน้าขอเสียงจากทุกพรรคและสว.เพื่อเลือกนายกฯและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2566 เวลา 12.33 น.ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เลขาธิการพรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย แถลงรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย รวม 238 เสียง

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแถลงแนวทางจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว วันนี้พรรคเพื่อไทยได้รับเกียรติจากพรรคร่วม ประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย เราได้รวบรวมเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งในสภา เราหวังอย่างยิ่งว่าจะคลี่คลายสถานการณ์ สลายขั้วการเมืองทุกฝ่าย เดินหน้าขอเสียงจากทุกพรรคและสว.เพื่อเลือกนายกฯและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ บริหารประเทศและเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้โดยเร็ว การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น

การตั้งรัฐบาลเร็ว จะเป็นผลดี ยืนยันทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ในสถานการณ์พิเศษ ท่ามกลางวิกฤตรธน. เศรษฐกิจ วิกฤตความขัดแย้งในสังคม แบ่งฝ่ายแบ่งขั้ว การแก้วิกฤตต้องสลายขั้วการเมืองจากทุกพรรคทุกกลุ่มทุกคน ตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยและนายกฯจากเพื่อไทย เพื่อนำประชาชนออกจากความทุกข์

พวกเราทั้ง 6 พรรคและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจในเพื่อไทยและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ขอให้ประชาชนสนับสนุนและเราจะเดินหน้าฝ่าวิกฤตต่อไป เราหวังความสามัคคีจากทุกฝ่ายในประเทศ

ด้านนายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้พรรคชาติพัฒนากล้า ยินดีตอบรับคำเชิญร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ซึ่งเหตุผลตอบรับมี 5 ข้อ 1.พรรคเพื่อไทยถือว่ามีความชอบธรรมเพราะเป็นพรรคอันดับ 2 เมื่ออันดับ 1 ตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็เป็นหน้าที่พรรคอันดับ 2

2.ในที่ประชุมหารือกัน เพื่อไนยืนยันว่าได้รวบรวมเสียงของสส.เกินกึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน จึงมั่นใจได้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก 3.ภายใต้การนำของเพื่อไทย จะไม่มีนโยบายใดๆเกี่ยวข้องกับการแก้ไขมาตรา 112

4.พรรคเพื่อไทยมีความแน่วแน่ในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ พรรคจึงมั่นใจในนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทยเพราะมีประสบการณ์แก้วิกฤตเศรษฐกิจและบุคลากรต่างๆ ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการเห็นการแก้ไข ซึ่งในข้อ 1-4 ตรงกับนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า

ส่วนข้อ 5 เป็นเหตุผลสำคัญคือเกือบ 3เดือนยังไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง มีแต่รัฐบาลรักษาการ ซึ่งมีขีดจำกัด เราจำเป็นต้องมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ลดความกังวลใจของประชาชน ดังนั้นการปล่อยให้มีสูญญากาศไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย พรรคจึงเห็นว่าควรร่วมมือกันสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรมและมาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ