ทัวร์ลงหนัก!"หจก.อาบู ฮานาน แทรเวล"ซิ่งปิดหนี หลังลอยแพผู้แสวงบุญ 21 คนตกอับที่ซาอุฯ

ทัวร์ลงหนัก!"หจก.อาบู ฮานาน แทรเวล"ซิ่งปิดหนี หลังลอยแพผู้แสวงบุญ 21 คนตกอับที่ซาอุฯ





ad1

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ติดตามค้นหาที่ตั้งของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาบูฮานาน แทรเวิล "ABU HANAN TRAVEL LIMITED PARTNERSHIP" ทะเบียน 0943553000017 ธุรกิจ : กิจการฮัจย์ หมวดธุรกิจ : ธุรกิจจัดนำเที่ยว สถานะ : ยังดำเนินกิจการอยู่ จดทะเบียน 4 มกราคม 2553 ทุนจดทะเบียน 3,000,000 บาท ตั้งอยู่ที่ 193/1 ถนนเมืองใหม่ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เมื่อไปถึงก็พบว่า เป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 3 คูหา สีฟ้า มีป้ายขนาดใหญ่เขียนว่าโรงเรียนพัฒนยะลาบริรักษ์ เมื่อเข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ภายในอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ก็ทราบอาคารแห่งนี้ มาเป็นโรงเรียนพัฒนยะลาบริรักษ์ ประมาณ 2 เดือนกว่าแล้ว ส่วนในเรื่องของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาบูฮานาน แทรเวิล ไม่มีใครรู้ ไม่สามารถตอบได้

อีกทั้ง ผู้รับผิดโรงเรียนดังกล่าวเล่าว่า ได้มาเช่าอาคารนี้ ตามเลขทะเบียนบ้าน 193/1 ถูกต้อง เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเปิดเป็นโรงเรียนผู้ช่วยพยาบาล ได้ทำการเช่าอาคารนี้จากเจ้าของเองชื่อเฮียเก้า และไม่รู้จักด้วยกับห้างหุ้นส่วนอาบูฮานาน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามด้วยประการนี้เหมือนกัน”

ด้าน นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ทนายประจำศูนย์มุสลิมยะลา กล่าวว่า ในคณะ มีพ่อและแม่ภรรยา เบื้องต้นได้ประสานกับทางกรมการปกครอง ในเบื้องต้นในส่วนของความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบพิธีฮัจญ์ผู้ประกอบการขึ้นจดทะเบียนต้องรับผิดชอบในส่วนของเงินค่าเสียหายต่างๆ การดำเนินคดีหรือได้รับเงินคืนเป็นแค่ปลายเหตุต้นทางจริงๆที่เขาต้องการเป้าประสงค์ใหญ่คือได้ประกอบพิธีฮัจญ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ในทางกฎหมายผู้รับผิดชอบโดยตรง คือ บริษัท หรือ ผู้ประกอบการ และ แซะ หรือ ผู้ประสานงาน นำฮูจญาจ เข้าไปในบริษัทนี้ ทั้ง 2 คน ต้องร่วมรับผิดชอบ ผู้รับผิดชอบหลัก คือบริษัท ในส่วนของแซะ นั้นจะตกลงกับผู้แสวงบุญอย่างไรนั้น เป็นเรื่องระหว่างระหว่าแซะห์ กับผู้แสวงบุญ แต่บริษัทเป็นผู้จดทะเบียนกับกรมการปกครองต้องรับผิดชอบทั้งหมด

ส่วน น.ส.เสาวลักษณ์ เหล็มเส็ม ลูกสาวของฮุจญาด ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ยะลา หนึ่งใน 500 คน ที่ได้รับความความเดือดร้อน ได้กล่าวว่า ทางครอบครัวได้เล่าว่า ทุกคนหวังว่าจะได้ย้ายไปซอฟวา ซึ่งปรากฏตามบัตรปรากฎว่าไม่มีใครได้ย้ายแต่มีบางคนได้ย้ายไปอยู่โรงแรมซอฟวา ถามว่ามีความลำบากอะไรไหม ต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อจะไปละหมาดซุบฮี (รุ่งอรุณ) อยู่ที่มัสยิดแค่ช่วงละหมาดดุฮา 07.00 น. เพราะต้องกลับมากินข้างที่พักเดินกลับมา ชั่วโมงกว่าความเป็นอยู่ของคนแก่ 80 ปี ไม่ไม่ง่ายเลย อยากฝากไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบกับบริษัทกิจการฮัจญ์ ทั้งหมดว่าเป็นแบบไหน อย่างไร รับรองอย่างถูกต้องไหม ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดอีกกับใคร 

ลูกชายของผู้แซะห์ ในจ.ยะลา กล่าวว่า ได้ไลน์คุยกับพ่อเมื่อคืนเช่นกัน พยามถามพ่อว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งพ่อบอกว่าไม่เป็นไรเป็นบททดสอบของพระเจ้า กำลังพยายามช่วยเหลือกันอยู่แล้ว  อาหารการกินก็ช่วยกันทำ พ่อยังบอกอีกว่า ขณะนี้ผู้แสวงบุญที่มากับบริษัทอาบูฮานาน ยังอยู่ที่เมืองเมกกะห์ ไม่รู้อีกว่าจะได้เดินทางไปเมืองมาดีนะเมื่อไร และค่าใช้จ่ายในการอยู่ที่เมืองเมกกะห์นี้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ วอนผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้แสวงบุญที่ประสบความเดือนทุกคนในครั้งนี้ด้วย เพื่อให้ได้บรรลุเป้าหมายฮัจย์ทุกประการ และเดินทางกลับประเทศไทยโดยความสวัสดิภาพ

ขณะที่ความเคลื่อนไหว ทางด้าน กลุ่ม 21 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนและได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม ล่าสุด ได้เดินทางไป พักที่โรงแรมแห่งใหม่ ตามที่ได้รับการช่วยเหลือจาก นายอาดัม พรภาพงาม ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ โรงเรียนฮาฟิศ อะลูกะห์ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งทุกคนได้อักคลิปเผยแพร่ และกล่าวขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือพร้อมยืนยันว่า ทางกลุ่ม 21 คน มีความเต็มใจและดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือ รวมทั้งยังกล่าวขอบคุณ นายอาดัม พรภาพงาม ที่ให้ความช่วยเหลือ ทุกคนดีใจมากหลังจากนี้จะได้ไปมัสยิดทุกวักตูหรือเวลาละหมาดตามที่ได้ตั้งใจ