แฉแก๊งทมิฬฆ่าหั่นเยอรมัน เตรียมทิ้งศพลงทะเล ตร.สืบรู้-เปลี่ยนแผนหลบหนี

แฉแก๊งทมิฬฆ่าหั่นเยอรมัน เตรียมทิ้งศพลงทะเล ตร.สืบรู้-เปลี่ยนแผนหลบหนี





ad1

ตำรวจเผยจากการสืบสวนสันนิษฐานว่า แก๊งทมิฬเตรียมลงเรือและอาจนำร่าง "นายฮันส์ ปีเตอร์" ไปทิ้งทะเลเพื่อทำหลายหลักฐาน แต่ตำรวจสืบสวนจนได้เบาะแสก่อน จนผู้ก่อเหตุเปลี่ยนแผนการหลบหนี 

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 66 คดีอุ้มฆ่าหั่นศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจ ชาวเยอรมัน ล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. ที่ผ่านมา นายแมดทิว ล่ามและผู้ช่วยทนายของ นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ อายุ 52 ปี ชาวเยอรมัน หนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญ ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ นายโอลาฟ ยังไม่ได้ให้การใดๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วน นายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน ชาวปากีสถาน ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่ ที่ จ.กาญจนบุรี กำลังถูกนำตัวเดินทางมาสอบสวน และจากการพูดคุยคาดว่า น่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจจะฆ่า นายฮันส์ ปีเตอร์ แต่พอมีเรื่องเงินก็อยากบีบให้เขาจ่ายเงิน ตนคิดว่าน่าจะหัวใจวายตอนนั้น แต่ก็ยังไม่แน่ใจ

นายแมดทิว กล่าวต่อว่า ส่วนจำนวนเงินที่มีการบีบผู้ตายนั้น ยังไม่ทราบว่าจำนวนเท่าไร และไม่ทราบว่าเป็นค่าอะไร โดยเราคิดว่าไม่มีใครทำร้าย ทุบตี ต่อย หรือยิงผู้ตาย ซึ่งคิดว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวกำเริบ แต่พอผู้ตายสิ้นใจ เกิดทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะหาทางออกยังไง จึงลงมือก่อเหตุลักษณะดังกล่าว

"ตอนนี้ทางทีมทนายกำลังปรึกษาและรอดูท่าทีของ นายโอลาฟ จะให้การกับพนักงานสอบสวนหรือไม่ ซึ่ง นายโอลาฟ จะปฏิเสธในชั้นสอบสวน และจะรอดูว่าเมื่อ นายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน ชาวปากีสถาน เดินทางมาถึง จึงแสดงความรับในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะชาวปากีสถานรายนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะเป็นผู้เช่าบ้านพูลวิลล่าทั้งหมด อีกทั้ง นายโอลาฟ ให้การว่าไม่เคยรู้จัก นายชาฮ์รูค มาก่อนด้วย" นายแมดทิว กล่าว

ขณะเดียว มีคลิปภาพการบุกจับกุม นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ ได้ที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นของสมาชิก "แก๊งเอาต์ลอว์" ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนจะควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดี ที่ สภ.หนองปรือ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปยึดเรือสปีดโบ๊ต ขนาด 18 ฟุต ยี่ห้อนิสสัน สีขาว เครื่องยนต์ยามาฮ่า ขนาด 60 แรง ซึ่งเป็นของ นายโอลาฟ มาทำการตรวจสอบ หลังนำไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อนสัญชาติเดียวกัน ที่ซอยพระตำหนัก 5 พื้นที่เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.2566 (ซึ่งเป็นวันที่พบศพผู้ตาย) ทำให้เจ้าของบ้านเกิดกลัว จึงรีบแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะมีการตรวจยึดเรือลำดังกล่าวในที่สุด

จากแนวทางสืบสวนทราบว่า เรือลำนี้ในช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ค.2566 นายโอลาฟ ได้ร้องขอให้เพื่อนสัญชาติเดียวกัน ลากเรือสปีดโบ๊ตลำดังกล่าวไปส่ง ที่ท่าลงเรือ ภายในโรงแรมโอเชียน มารีน่า ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แต่เนื่องจากเรือไม่มีเอกสารทะเบียนและใบท้ายเรือ จึงไม่สามารถลงทะเลได้ ทำให้ นายโอลาฟ จึงขอให้เพื่อนลากเรือกลับมาฝากไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว

ขณะที่กล้องวงจรปิดของร้านอุปกรณ์ตกปลาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง สามารถจับภาพ นายโอลาฟ กับ นายชาฮ์รูค เข้าไปซื้ออุปกรณ์ตกปลา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เตรียมไปลงเรือและอาจจะนำร่างของ นายฮันส์ ปีเตอร์ ไปทิ้งทะเลเพื่อทำลายหลักฐาน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนได้เบาะแสมาถึงบ้านหลังที่นำตู้แช่มาแช่ศพซุกซ่อนไว้ คนร้ายจึงต้องเปลี่ยนแผนในการหลบหนีความผิด