"แจ๊บ จอมโหด" สารภาพสิ้นใช้ไม้เบสบอลตี "ลูกเลี้ยง" จนตายโปกปูน เหตุโมโหชอบขโมยของ

"แจ๊บ จอมโหด" สารภาพสิ้นใช้ไม้เบสบอลตี "ลูกเลี้ยง" จนตายโปกปูน เหตุโมโหชอบขโมยของ





ad1

แจ๊บ จอมโหด เปิดปากสารภาพสิ้นไส้ ฆ่าลูกเลี้ยงโบกปูน อ้างชอบขโมยของ ตีหลายครั้งจนนิ่ง เผยเหตุถอดเสื้อผ้า เพราะชุดที่ใส่เปื้อน แต่ไม่ได้เปลี่ยนให้

จากกรณี ตำรวจเข้าจับกุมตัว นายยุทธนา หรือ แจ๊บ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ไม้เบสบอลทำร้าย ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ลูกเลี้ยงจนเสียชีวิต ก่อนนำศพยัดใส่ถังน้ำแข็งโบกปูนถมดินทับ ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง เขตบางเขน กทม. ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 4 ก.ค.66 ที่ สน.บางเขน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เล่าถึงเหตุการณ์ที่ไม่พอใจ และมีการตีทำร้ายร่างกายเด็กก่อนหน้านี้มาแล้ว ใช้ไม้ตี แต่ไม่เป็นอะไร จนวันเกิดเหตุ นายแจ๊บ อ้างว่าเด็กมีพฤติการณ์ลักขโมยของ จึงใช้ไม้เบสบอลตีจนเสียชีวิต นายแจ๊บ ไม่แน่ใจว่าเสียชีวิตหรือไม่ แต่ตีหลายครั้ง จนเด็กนิ่งไป ก่อนที่จะลากมากลางบ้าน เพื่อดูว่าเสียชีวิตหรือไม่

หลังจากทราบว่าเสียชีวิตแล้ว นายแจ๊บ กลัวความผิด ที่ทำร้ายเด็กจนเสียชีวิต จึงไปซื้อถังใส่น้ำแข็งจากตลาดไท ดินปลูกต้นไม้ และปูนมาโบกทับ จากนั้นก็ยกถังน้ำแข็งไปไว้หลังบ้าน และรอตำรวจมาจับ เพราะคาดว่า ตัวเองหนีไม่พ้นแน่ เมื่อถามว่า แผนอำพรางนี้ คิดเองหรือไม่ ต้องรอการสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงสอบปากคำ น.ส.นิรมล ภรรยา เพิ่มเติมอีกด้วย

โดยในวันเกิดเหตุ นายแจ๊บ มีสารเสพติดในร่างกายหรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติ มีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าทำไมร่างของเด็กอายุ 12 ปี ถึงได้เปลือยเปล่า นายแจ๊บ ให้การว่า ที่ต้องถอดเสื้อผ้าเด็ก เพราะเสื้อผ้าสกปกรก ตอนแรกจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ศพ แต่เปลี่ยนใจ ซึ่งจากการตรวจร่างกาย ไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศ

ทั้งนี้ เด็กที่เสียชีวิตถูกขอมาอุปการะ ตั้งแต่อายุ 7 ปี แต่ไม่ได้รับเป็นลูกตามกฎหมาย ซึ่งภรรยาผู้ต้องหา ไปขอแม่เด็กมาเลี้ยง จาก จ.อุทัยธานี ตั้งใจจะส่งเรียนหนังสือ แต่เด็กปฏิเสธ ไม่ยอมเรียนหนังสือ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องขยายผลตรวจสอบเพิ่มว่ามีคนให้การช่วยเหลือหรือไม่ ส่วนที่จับกุมผู้ต้องหาอ้างว่า เป็นละแวกใกล้บ้านน้องชาย ขณะที่ผู้หญิงที่พบในห้องด้วยกัน จากการตรวจสอบพบว่าไม่เกี่ยวข้องเลย และจากการตรวจสอบในห้องที่จับกุม ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ขณะที่ น.ส.นิรมล ต้องสอบสวนต่อว่าเข้าข่ายช่วยเหลือหรือมีความผิดหรือไม่