นักวิชาการ มข.ชี้ พท. เสนอ"วันนอร์"ชิงประธานรัฐสภา เตรียมรับผลกระทบเลือกตั้ง 4 ปีข้างหน้า ได้ส.ส.ลดน้อยลงแน่

นักวิชาการ มข.ชี้  พท. เสนอ"วันนอร์"ชิงประธานรัฐสภา เตรียมรับผลกระทบเลือกตั้ง 4 ปีข้างหน้า ได้ส.ส.ลดน้อยลงแน่





ad1

ขอนแก่น-นักวิชาการ มข.ระบุ พท. เสนอ "วันนอร์"ชิงประธานรัฐสภา เตรียมรับผลกระทบจากประชาชนในการเลือกตั้ง 4 ปีข้างหน้า ได้ส.ส.ลดน้อยลงแน่ พร้อมระบุ 376 เสียงที่ต้องการตั้งรัฐบาลเป็นไปได้ยาก แนะจีบ ภท.เพิ่ม

รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด นักวิชาการ ประจำมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยเสนอตัวชิงประธานรัฐสภา ซึ่งล่าสุดทราบมาว่ามีการเสนอชื่อ นายวันมูฮะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชามติ เป็นประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คสรทำอย่างยิ่ง เพราะด้วยหลักสากลแล้วนั้น พรรคที่ชะอันดับ 1 จะได้สิทธิ์ในการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานสภา ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เคยทำมา แต่มาครั้งนี้พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้คะแนนอันดับ 2 มาบอกว่า สัดส่วนเก้าอี้ ส.ส.ห่างกัน 10 ที่นั่ง แต่ถ้ามองความเป็นจริงคือคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้ห่างกันกว่า 4 ล้านคะแนน จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่พรรคเพื่อไทย จะทำเช่นนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบในภาพรวมต่อการเลือกตั้งในอีก 4 ปีข้างหน้าที่คะแนนของพรรคเพื่อไทยจะลดลง

“ ในระยะยาว พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย จะเป้นคู่แข่งกัน และพรรคเพื่อไทยก็ควรที่จะแดงจุดยืนทางการเมือง อย่างที่พรรคก้าวไกลทำ อย่ามาเล่นเกมสื หรือชิงไหวิงพริบกัน แบบนี้ ซึ่งเพื่อไทยก็จะมีแต่เสียกับเสีย ประชาชนทุกวันนี้เข้าใจและรู้ทันสถานการณ์ จะชิงเหี่ยม เอาประธานสภา ไปครอง และลามไปต่อถึงการจัดตั้งรัฐบาล จากนั้นก็จะออกนโยบายประชานิยมมาเพื่อกลบกเกลื่อน ซึ่งวันนี้ประชาชนคนไทยนั้นไม่ใช่คนลืมง่าย และไม่ใช่คนที่จะมองแต่การเล่นการเมืองแบบเก่าๆ ซึ่งหากในวันประชุมสภา นัดแรกในวันพรุ่งนี้ (4ก.ค.) เป็นอย่างที่ระบุจริง พรรคเพื่อไทยก็เตรียมที่จะกลายเป็นพรรคขนาดกลาง มีที่นั่ง ส.ส.น้อยลงในการเลือกตั้งอีก 4 ปีข้างหน้าเพราะประชาชนไม่เชื่อใจและไม่มั่นใจแล้ว และพรรคก้าวไกลที่มีจุดยืนทางการเมืองชัดเจนก็จะได้ ส.ส.มากกว่า 300 คนอย่างแน่นอน”

รศ.ดร.พรอัมรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า ยอมรับว่า 8 พรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้มี 313 เสียง หากจะรับรวม เสียง สว.อีกก็มาไม่ถึง 10 คน ซึ่งก็สุ่มเสี่ยงต่อการที่พรรคก้าวไกล จะได้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้พรรคก้าวไกลจึงต้องการเก้าอี้ประธานสภา มาก่อน เพราะก้าวต่อไปนั้นมีอุปสรรคมากมาย แต่ทุกคนก็สู้ ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ 313 เสียงของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลนั้นคะแนนเสียงคงมาครบในการเลือกประธานสภา แต่การจะเลือก นายกรัฐมนตรีที่กำหนดไว้ในวันที่ 14 ก.ค. โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะเชิญพรรคภูมิใจไทย มาร่วมด้วย เพราะถือว่าคะแนนจะเกินความคาดหมาย โดยไม่คำนึงถึงคะแนนของ สว.

“ ถ้าคุณวันนอร์ เป็นประธานสภาจริงตามกระแสที่เกิดขึ้นวันนี้ ก็จะเป็นประธานสภาได้ไม่ยั่งยืนแต่ก็ลดกระแสต่างๆไปได้เพราะพรรคประชาชาติเป็นพรรคลำดับที่ 3 จาก 8 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะมีรอยร้าวและแก้วที่ร้าวลึก กับพรรคเพื่อไทยชัดเจน เพราะท่าทีที่แสดงออกของพรรคเพื่อไทยวันนี้คือเหมารวบทั้งายกรัฐมนตรีและประธานสภา เพราะพรรคก้าวไกลกำลังถูกรังแก สกัดกั้น จากเกมส์การเมืองทุกวิถีทาง แต่ก็ต้องมองว่าพรรคเพื่อไทยที่ประกาศว่าตนเองจะแลนด์สไลด์แต่ก็ทำไม่ได้ และก็ยังคงมากระทำการในลักษณะเช่นนี้อีก ดังนั้นก้าวต่อไปคือ การที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง 8 พรรคร่วมรัฐบาลคือจีบพรรคภูมิใจไทย มาร่วมด้วย ซึ่ง 313 รวมกับ 70 ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ก็จะทำให้พรรคก้าวไกล ได้นายกรัฐมนตรี ทันทีโดยไม่ต้องกังวล คะแนนเสียงของ สว.ที่หลายฝ่ายกำลังกังวลใจอย่างมากในขณะนี้”