ก้าวไกล พาผู้เสียหายแจ้งความ ปคม.โดนเอเย่นต์หลอกไปทำงานออสเตรเลีย

ก้าวไกล พาผู้เสียหายแจ้งความ ปคม.โดนเอเย่นต์หลอกไปทำงานออสเตรเลีย





ad1

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2566 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. นายพรมมา ภูมิพันธ์ เลขานุการเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน และนายสุริยะ ปะสาวะนัง ผู้ช่วย สส. เครือข่ายแรงงานพรรคก้าวไกล พาชาวบ้าน จาก จ.นครราชสีมาจำนวน กว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เผ่าภูมิ สมหมาย , พ.ต.ต.หญิง พัชรี วงษ์บุญ พงส.บก.ปคม.แจ้งความดำเนินคดีเอเย่นต์หลอกลวงแรงงานไปทำงานต่างประเทศ

นายพรมมา เปิดเผยว่าตนได้รับมอบหมายจาก ว่าที่ สส."เซีย จำปาทอง"พรรคก้าวไกล มอบหมายตนพาผู้เสียหายชาวบ้านจากโคราชมาแจ้งความเอาผิดกับเอเย่นต์จัดหางานรายหนึ่ง ที่หลอกลวงว่าจะพาผู้เสียหายเหล่านี้ไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ก็อ้างสารพัดเหตุผลไม่ได้เดินทางไปทำงานตามสัญญา จนเชื่อว่าน่าจะถูกเอเย่นต์รายดังกล่าวหลอกลวง

เบื้องต้นได้รับคำแนะนำจาก รอง ผกก.บก.ปคบ.ว่าให้กลับไปติดตามเรื่องที่ สภ.ท้องที่จะรวดเร็วกว่าเพราะอำนาจการสอบสวนเป็นของท้องที่ที่แจ้งความไว้แล้ว เมื่อต้นเดือนตนก็พาผู้เสียหายถูกหลอกไปทำงานที่ออสเตรเลียมาแจ้งความ ปคม.เกือบ 30 คน คดีทาง ปคม.เดินหน้าไปมาก วันนี้พามาอีกราย ฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่ได้รับข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ชักชวนไปทำงานต่างประเทศขอให้ระมัดระวัง ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจโอนเงินค่าใช้จ่าย ถ้าต้องการไปทำก็ขอให้ผ่านกรมจัดหางาน กระทรวงแรงงานจะดีและปลอดภัยที่สุด ถูกต้องตามกฎหมายและป้องกันการถูกหลองลวง

นส.แยม อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนรู้จักน.ส.นก(นามสมมุติ) เอเย่นต์รายนี้จากทางโซเชียลฯ โดยเขาได้โพสต์ภาพว่าเขาได้เดินทางไปทำงานในแต่ละประเทศมาแล้ว จากนั้นได้โพสต์ชักชวนคนที่สนใจ โดยบอกว่าถ้าไปทำงานที่ออสเตรเลีย จะมีรายได้สูงกว่าที่ทำอยู่ในเมืองไทย ถ้าใครอยากจะไปให้ติดต่อผ่านเขาได้เลย เขาจะประสานติดต่อขอวีซ่านักเรียนให้ไปทำงานอย่างถูกกฎหมาย หากใครมีปัญหาก็จะหาสปอนเซอร์ให้ก่อนแล้วค่อยไปหักทีหลัง เบื้องต้นค่าเรียนที่โน้นค่อนข้างสูงคือรายละแสนกว่าบาท ถ้าทำผ่านเขาจะเสียค่าหัวค่าตั๋วแค่ 2-3 หมื่นบาท พวกเราก็หลงเชื่อเพราะเห็นโปรไฟล์ที่ดีๆ ของเขา ลงไว้ว่าเขาได้ทำงานแม่บ้านอยู่ที่โรมแรมในออสเตรเลีย โพสต์สเตทเม้นต์ ตัวเลขเงินในบัญชีธนาคาร สร้างความน่าเชื่อถือจนเราอยากไปทำงานแบบเขาบ้าง

เวลาผ่านมาเกือบปี ปรากฎว่าเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่ามมาเขาแจ้งผู้เสียหายให้เตรียมตัวเดินทาง ให้แต่ละคนไปตรวจสุขภาพ ก่อนจะแจ้งมาว่าเราจะได้ไปวีซ่านักท่องเที่ยว ซึ่งไม่สามารถไปทำงานได้เหมือนตามที่สัญญาไว้แต่แรกว่าจะเป็นวีซ่านักศึกษา แต่ก็มีบางคนที่ต้องการไปแม้จะเป็นวีซ่านักท่องเที่ยวก็จะไป

ต่อมาระหว่างเดือน เม.ย.ถึง พ.ค.เขาแจ้งยกเลิกกำหนดการเดินทางทั้งหมด จะทยอยคืนเงินให้แต่ละคน แต่ก็ไม่คืนจนถึงวันนี้ แจ้งให้ผู้เสียหายทำใจคิดว่าเป็นค่าติดต่อทำเรื่องให้ แต่ละรายจะต้องเสียเงินให้เขาประมาณ 2-3 หมื่นบาท รวมผู้เสียหายที่มาวันนี้ 5-6 แสนบาท นอกจากพวกตนแล้วยังมีคนที่ยังไม่แจ้งความอีกจำนวนมาก

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายส่วนใหญ่แจ้งความสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุมาแล้ว อยู่ในขั้นออกมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาพบ ได้แนะนำให้กลับไปเร่งรัดคดีกับ พงส.ท้องที่ โดยทาง ปคม.จะช่วยประสาน ส่วนรายที่ยังไม่ได้แจ้งความ ปคม.จะดำเนินการด้านคดีให้ต่อไป