ตำรวจบุกรวบกรรมการบริษัทตุ๋นลงทุนซื้อขายน้ำมันสูญกว่า 27 ล้านบาท

ตำรวจบุกรวบกรรมการบริษัทตุ๋นลงทุนซื้อขายน้ำมันสูญกว่า 27 ล้านบาท





ad1

กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลางบุกรวบกรรมการบริษัท หลอกลงทุนซื้อขายน้ํามัน พบผู้เสียหาย 65 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 27 ล้านบาท

กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายธัชเศรษฐ์ฯ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1236/2566 ลง 10 พ.ค. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนําเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถ ไปรษณีย์ไทย สาขารางโพธิ์ แขวงแสมดํา เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2565 ผู้เสียหายกับพวกได้ถูกชักชวน ให้ร่วมลงทุนค้าน้ํามันกับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีนายธัชเศรษฐ์ฯ เป็นกรรมการบริษัทและนายภูมิฯ เป็นประธาน กรรมการ ในการซื้อขายน้ํามันจากประเทศรัสเซีย ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันไลน์กลุ่ม ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่ม ประมาณ 1,000 คน โดยการชักชวนให้ลงทุนซื้อหุ้นที่จะให้ผลตอบแทนเกินกว่าที่กฎหมายกําหนด โดยผู้ที่ สนใจสามารถโอนเงินลงทุนไปยังบัญชีของบริษัทฯ และหากผู้ลงทุนชักชวนบุคคลอื่นให้ร่วมลงทุนด้วย จะได้รับ ผลตอบแทนจากการชักชวนจํานวน 10% จากเงินที่บุคคลอื่นลงทุน ผู้เสียหายกับพวกเห็นว่าบริษัทดังกล่าว มีความน่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนด้วย

แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ได้มีการแจ้งผ่านไลน์กลุ่มว่าบริษัทมีปัญหาการซื้อขายน้ํามัน กับประเทศรัสเซีย และไม่สามารถติดต่อประธานบริษัทได้ ทําให้กลุ่มผู้เสียหายทราบว่าน่าจะถูกหลอกลวง จึง รวมตัวกันกว่า 65 ราย รอ้ งทุกข์ผ่านระบบออนไลน์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดย ก่อนจะมีการมอบหมาย ให้ กก.4 บก.ปอศ. รับผิดชอบทําการสืบสวน สอบสวนคดีดังกล่าว เบ้ืองต้น พบมูลค่าความเสียหายกว่า 27 ล้านบาท ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา และเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมได้สืบสวน พร้อมทั้งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนนําตัวส่งพนักงาน

สอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดําเนินคดี ขณะที่นายภูมิฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับอีกราย อยู่ระหว่างการติดตาม จับกุมตวัมาดําเนินคดตีามกฎหมาย

จากการสอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้นนายธัชเศรษฐ์ฯผู้ต้องหาปฏิเสธไมท่ราบเรื่องและไมเ่กี่ยวข้องใดๆ โดยอ้างว่าตัวเองเป็นพนกังานที่ร้านของของแห่งหนึ่งในจังหวัดระยองซึ่งมีนายภูมิฯเป็นเจ้าของต่อมานายภูมิ ฯ อ้างว่าบริษัทจะล้มละลาย จึงมาขอให้ตนเป็นตัวแทนช่วยเปิดบริษัทค้าน้ํามันให้ แต่ในส่วนการทําธุรกรรม เกยี่วกับการเงินหรือกําไรปันผลต่างๆนายภูมิฯเป็นผู้ดําเนินการเองทั้งหมดทั้งนเี้จ้าหน้าที่ตํารวจไม่ปักใจเชื่อ คําให้การแต่อย่างใด