ญาติไม่ติดใจสาเหตุรเจ้าอาวาสวัดหนองคล้าผูกคอมรณภาพในกุฏิ

ญาติไม่ติดใจสาเหตุรเจ้าอาวาสวัดหนองคล้าผูกคอมรณภาพในกุฏิ





ad1

ปราจีนบุรี –เจ้าอาวาสวัดหนองคล้าผูกคอมรณภาพในกุฏิ  ทางญาติ ๆ  ยืนยันไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตใด ๆ กำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศลรวม 3 วัน

  

ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้าจากกรณีพระครูศุภชัย สุชาโต อายุ 76 ปี 24 พรรษา  เจ้าอาวาสวัดหนองคล้า    ใช้สบงมัดกับขอบประตูห้องน้ำผูกคอเสียชีวิตอยู่ภายในกุฏิวัดหนองคล้า  หมู่ที่ 7 ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีพระประคอง ชะยะธัมโม พระลูกวัดที่เป็นคนตัดประตูเหล็กเข้ามาภายในกุฏิ เข้ามาพบศพ   เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา  หลังจากได้มาเรียกเจ้าอาวาส  แต่ประตูกระจกด้านนอกถูกล็อคด้านใน    ส่งเสียงเรียกไม่มีเสียงตอบรับ จึงใช้หินเจียรตัดเหล็กตัดรูกุญแจด้านนอกออกแล้วเปิดประตูเข้ามาส่งเสียงเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ พบเจ้าอาวาสใช้สบงมัดกับขอบประตูห้องน้ำผูกคอตัวเองเมื่อตั้งสติได้จึงแก้มัดคอออกแล้วนำล่างมานอนไว้ที่พื้นและปั๊มหัวใจแต่ไม่ตอบสนอง จึงส่งเสียงร้องให้พระรับทราบและโทรแจ้งยอดและแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ สาเหตุการผูกคอเสียชีวิตในครั้งนี้คาดว่าเจ้าอาวาสน่าจะเครียด   ที่ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านรวมตัวกันขับไล่ไม่ให้อยู่ที่วัดนี้ โดยพระครูบอกว่าจะไม่ไปไหน  จะขออยู่ที่วัดนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าท่านจะผูกคอตัวเองจนมรณภาพหลังเกิดเหตุ ซึ่งทางญาติโยมต่างอโหสิกรรม  และช่วยกันเก็บกวาดศาลาเพื่อที่จะประกอบพิธีรดน้ำศพในวันนี้  ตามรายละเอียดที่นำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ แล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด   ญาติโยมได้นำศพมาตั้งรอรดน้ำศพ – บำเพ็ญกุศลที่ศาลาธรรมสังเวชวัดหนองคล้า  เพียงรอบุตรสาวของพระครูศุภชัย ที่เดินทางมาให้รายละเอียด- ปากคำกับพนักงานสอบสวน  สภ.วังตะเคียน อ.กบินท์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในการยืนยันไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตใด ๆ เพราะหากติดใจทางพนักงานสอบสวน จะต้องส่งศพชันสูตรต่อที่สถาบันนิติเวช

 

พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิฐศักดิ์ ผกก.วังตะเคียน กล่าวว่า จากรายละเอียดก่อนที่ พระครูศุภชัย สุชาโต อายุ 76 ปี 24 พรรษา  เจ้าอาวาสวัดหนองคล้า    ใช้สบงมัดกับขอบประตูห้องน้ำผูกคอเสียชีวิต  นั้น ได้มีกลุ่มชาวบ้านสงสัย – เคลือบแคลง  ไม่อยากให้อยู่ปมบริหารจัดการวัด  ได้ขอให้ทางคณะสงฆ์มีการตั้งกรรการสอบ  อาจเป็นปมสาเหตุการเครียดจนเจ้าอาวาสผูกคอตัวเองมรณภาพดังกล่าว การชันสูตรพลิกศพ ไม่พบบาดแผล หรือ ร่องรอย  การถกทำร้ายใด ๆ    และ  ทางญาติ ๆ  ยืนยันไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตใด ๆ  พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าว

 ด้าน นายอุทัย   บุญช้อย อดีตมักคทายกวัดหนองคล้า กล่าวว่า   ทางชาวบ้านอยากให้ความถูกต้องเป็นหลัก    เสียใจกับการจากไปของเจ้าอาวาสแบบที่ไม่สมบูรณ์  โดยก่อนหน้านั้นทางชาวบ้านต้องการให้คลายข้อสงสัยเรื่อง เงิน    ซึ่งไม่น่าจากพวกเราชาวบ้านไปแบบนี้  ยอมรับว่าท่านป่วยต้องฉันท์ยาหลังอาหาร 3 เวลา   ท่านจากไปโดยไม่กล่าวไม่ลา   ท่านอยู่กับวัดมานานกว่า 24 ปี  โดยทางญาติและกรรมการวัดได้กำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศลรวม 3 วัน   นายอุทัย   กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนหน้าเกิดเหตุนั้น     เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.66  นายบรรดิษฐ์ แก้วเคน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 เป็นตัวแทนชาวบ้าน   ทำหนังสือถึงเจ้าคณะตำบลขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ พระอธิการศุภชัย สุชาโต เจ้าอาวาสวัดหนองคล้า เนื่องด้วยผู้ใหญ่บ้านได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหนองคล้าซึ่งมาทำบุญที่วัดหนองคล้า ต.วังตะเคียน ทางคณะสงฆ์ในเขตปกครองของเจ้าคณะตำบลหนองกี่เขต 2 ถึงพฤติกรรมต่างๆ ซึ่งไม่เหมาะสมของเจ้าอาวาสวัดหนองคล้า ทำให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธาและอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาได้ จึงได้ให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทนการร้องเรียนซึ่งมีมูลเหตุในเรื่องต่างๆ ดังนี้

1.ยืมเงินจากนายไพโรจน์ ลิ้มแก้ว เป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท โดยไม่มีความสามารถจะคืนเงินจำนวนดังกล่าวได้ใช้เสียงส่วนน้อยในการกู้ยืม ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้ จึงเป็นการสร้างความแตกแยก ก่อให้เกิดวิกฤตศรัทธาด้วยคำพูดที่ว่า “วัดเป็นหนี้ อาตมาไม่ได้เป็นหนี้”
2.ขาดการสงเคราะห์มีอคติไม่ไปกิจนิมนต์โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ก่อให้ศรัทธาชาวบ้านตกและทำให้งานไม่มีพระสงฆ์ทำให้ผู้จัดงานเสียหน้าและสะเทือนใจ จนเป็นปมเหตุวิกฤตศรัทธาพระกับชาวบ้าน
3.ดำเนินการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆภายในวัดโดยไม่เคยปรึกษาและชี้แจงให้คณะกรรมการและชาวบ้านได้รับทราบ
4.ปลดคณะกรรมการวัดที่ไม่เห็นด้วยกับตนออก และห้ามไม่ให้เข้าวัด
5.ต้องการที่จะบริหารเงินวัดโดยลำพังผู้เดียว
6.เบิกเงินวัดโดยไม่ไม่มีการปรึกษาคณะกรรมการ
7.เปิดเครื่องเสียงเปิดเพลงเสียงดัง (ไม่เคยเปิดธรรมะ) ก่อให้เกิดความรำคาญแก่ชาวบ้านและเนื้อหาเสียดสีชาวบ้านด้วย
8.ข่มขู่ชาวบ้านตั้งตนเป็นปรปักษ์กับชาวบ้านโดยแจ้งความจับชาวบ้านที่มีความเห็นต่างจากตน
9.ปิดรูปภายนอกไม่รับโทรศัพท์คนอื่น ตัดขาดจากวัดอื่นส่งผลให้การบริหารงานติดขัด ขาดการประชุมคณะสงฆ์เป็นต้น ส่งผลเสียให้การแยกตำบลเขตการปกครองสงฆ์ต้องตกไปที่เขตอื่น (ถ้าเจ้าอาวาสเข้าประชุมก็ยังมีโอกาสคัดค้านบ้าง)ทจึงสร้างความสะเทือนใจและส่งถึงความบกพร่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าอาวาส
10.เจ้าอาวาสเป็นบุคคลสาธารณะแต่ท่านกลับมีโลกส่วนตัวสูงอยู่แต่ในกุฏิมิดชิด เปิดแอร์ 24 ชั่วโมงไม่ออกมาทำกิจวัตรเยี่ยงพระสงฆ์ที่ควรเป็น
11.สรุปท่านเป็นพระที่มีอคติไม่เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาของชาวบ้านไม่มีจิตที่เป็นกลาง ช่างตุ่นอยู่บนฑิฐิติมานะ ทรยศต่อศรัทธาของชาวบ้าน คอยอ้างแต่อำนาจและกฎหมาย สร้างความแตกแยกไม่สร้างความสงบสุขร่มเย็นไม่เป็นที่พึ่ง แต่ตรงข้ามคือสร้างปัญหาความแตกแยกมายาวนานกว่า 10 ปี ในการนี้จึงขอความเมตตาจากท่านเจ้าคณะตำบลได้ตรวจสอบให้ได้ความกระจ่างและเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนา และพุทธศาสนิกชนสืบไ

โดย...มานิตย์  สนับบุญ /  ปราจีนบุรี