ฝ่ายปกครองตาก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดน อำเภอแม่สอด หลัง กฟภ. งดจ่ายไฟฟ้าให้เมียนมา

ฝ่ายปกครองตาก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดน อำเภอแม่สอด หลัง กฟภ. งดจ่ายไฟฟ้าให้เมียนมา





ad1

ฝ่ายปกครองตาก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดน อำเภอแม่สอด หลัง กฟภ. งดจ่ายไฟฟ้าให้เมียนมา เบื้องต้นพบยังไม่มีผลกระทบต่อฝั่งไทย ยังมีการค้าขายชายแดนตามปกติ

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก  นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอแม่สอด  จ.ตาก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ที่บริเวณช่องทางอื่นนอกทางอนุมัติ ที่ได้รับการผ่อนผัน ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ท่าที่ 23 บ้านวังแก้ว โดยมี นายคำ จันทร์บุญ ผู้ประกอบการฯ ท่าที่ 23 ท่าวังแก้ว  พร้อมผู้เกี่ยวข้องคอยให้ข้อมูล หลังจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)แม่สอด หยุดจ่ายไฟฟ้าข้ามแดนไปประเทศเมียนมา จำนวน 2 จุด บริเวณเมืองชเวโก๊กโก่ และ เล เก ก่อ ของกลุ่มทุนจีนซึ่งเข้ามาลงทุน เมื่อช่วงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 5 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา ตามหนังสือสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคของไทย ที่แจ้งขอให้งดจ่ายไฟฟ้าบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่า หลังการงดจ่ายไฟฟ้าดังกล่าว ยังไม่มีผลกระทบต่อฝั่งไทย โดยวันนี้ ยังคงมีการค้าขายชายแดนตามปกติ ทั้งที่บริเวณช่องทางอื่นนอกทางอนุมัติ ที่ได้รับการผ่อนผัน ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 หรือที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดตาก จะยังคงติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านอำเภอแม่สอด อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง ยังคงปฏิบัติหน้าที่ คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดตามปกติเช่นกัน

สำหรับการงดจ่ายไฟฟ้าดังกล่าว สืบเนื่องจากสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ได้มีหนังสือถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคของไทย ขอให้งดจ่ายไฟฟ้าจากประเทศไทยไปยังเมืองชเวโก๊กโก่ และ เล เก ก่อ ของเมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุน โดยให้เหตุผลว่า สิทธิในสัมปทานขายไฟฟ้า ที่ต่อให้แก่บริษัทของไทย ครอบคลุมเพียงพื้นที่เมืองเมียวดี จุดเดียวเท่านั้น จึงไม่รวมถึงจุดจ่ายไฟ ที่ส่งต่อไปยังเมืองชเวโก๊กโก่ และ เล เก ก่อ

ทั้งนี้ หลังจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค งดจ่ายกระแสไฟฟ้าเมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 5 มิ.ย.2566 พบว่า ไฟฟ้าที่ส่องสว่างในตัวเมืองชเวโก๊กโก่ จังหวัดเมียวดี  สหภาพเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังแก้ว ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก และที่บริเวณบ้านเลเกก่อ จ.เมียวดี ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ อ.แม่สอด แทบไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนจีน ได้นำเครื่องไฟฟ้าสำรองมาใช้ ทำให้ตัวอาคาร สำนักงาน รวมถึงแหล่งบันเทิงต่าง ๆ ยังคงมีไฟฟ้าสว่างไปทั่ว

ขณะที่ บริเวณที่มีไฟฟ้าดับ จะเป็นพื้นที่โซนของชาวบ้านที่เป็นแรงงาน และลูกจ้างทั่วไปที่อยู่ในเขตพื้นที่ด้านใน หรืออยู่ในหมู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ไฟฟ้าจากฝั่งไทยที่จ่ายไปยังฝั่งเมียนมา 3 ใน 4 เป็นคนเมียนมาและคนกะเหรี่ยงใช้ประโยชน์ ส่วนที่เหลือเป็นการนำไปใช้ในอาคารสำนักงาน และที่พักของกลุ่มทุนจีน ซึ่งเข้ามาลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว