ความจริงที่น่าสะพรึง!! ร้านค้าเนื้อสัตว์เกือบครึ่งเคยค้าหมูเถื่อน

ความจริงที่น่าสะพรึง!! ร้านค้าเนื้อสัตว์เกือบครึ่งเคยค้าหมูเถื่อน





ad1

ปัญหาหมูเถื่อน หมูกล่อง หรือ หมูที่ลักลอบนำเข้าผิดกฏหมาย สร้างความเดือดร้อนเบียดเบียนตลาดของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูและบั่นทอนสุขภาพผู้บริโภคไทยมานานกว่าปีแล้ว น่าแปลกใจที่ภาครัฐของไทยไม่สามารถจัดการขั้นเด็ดขาดแก้ปัญหานี้ให้หมดไปได้เสียที ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่จนเกษตรกรต้องเข้าสู่ภาวะขาดทุนสะสมต่อเนื่องกันหลายสัปดาห์  

การกระจายหมูเถื่อนออกไปได้ทั่วประเทศขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบรรดาพ่อค้าแม่ขายที่หวังกำไรมหาศาลจากของราคาถูก รับซื้อของผิดกฏหมายเหล่านี้มาบริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านชาบู หมูกระทะ ร้านขายเนื้อสัตว์ ไม่เว้นแม้แต่บรรดาห้างร้านที่เอา“เนื้อหมู”มาทำราคาโปรโมชั่นเรียกคนเข้าห้าง โดยหารู้ไม่ว่ามันส่งผลกระทบกับราคาหมูหน้าฟาร์มของเกษตรกรมากเพียงใด

นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี ระบุผ่านสื่อว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้เลี้ยงหมูต้องเผชิญกับราคา “หมูเป็น” ตกต่ำ ได้แก่ 1). ขบวนการของผู้มีอิทธิพลลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศ เช่น บราซิล เยอรมนี ออสเตรเลีย สหรัฐ มาเป็นจำนวนมากในระดับหลาย 1,000 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน โดยหมูเถื่อน หรือ “หมูกล่อง” เหล่านี้ขายกันในราคาเพียง 105-110 บาท/กก. ตีตลาดหมูเนื้อแดงในประเทศกระจุย 2). ห้างและร้านมีตช็อปมีการจัดโปรโมชั่นจำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคาถูก เช่น 118-119 บาท/กก. ส่งผลกระทบไปยังสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มของเกษตรกรต้องปรับราคาลดลงตาม มิเช่นนั้นก็ไม่สามารถขายได้  3). ต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้น ยาเวชภัณฑ์สัตว์ทุกตัวปรับราคาขึ้นหมด กากถั่วเหลือง ข้าว ปลายข้าว รำข้าว การผลิตอาหารสัตว์ต้นทุนสูงขึ้น 40-50%  และ 4). ปัญหาโรค ASF ยังไม่ได้หมดไปจากประเทศไทย เกษตรกรต้องลงทุนทำระบบมาตรฐานที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อป้องกันโรค 

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้รู้ในแวดวงปศุสัตว์ยังฟันธงว่า หมูเถื่อนที่จับกุมได้มีเพียง 5% ของหมูเถื่อนทั่วไทย และร้านค้าที่จำหน่ายเนื้อสัตว์เกือบ 50% ในประเทศไทย ล้วนมีประสบการณ์การซื้อ-ขายหมูเถื่อนด้วยกันทั้งสิ้น จะโดยรู้ตัวหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ถือว่ามีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้ “หมูเถื่อน” เกลื่อนเมือง และทำร้ายเกษตรกรไทยอย่างไม่น่าให้อภัย ยิ่งถ้าใครซื้อขายหมูเถื่อนเพราะหวังกำไรส่วนตางมหาศาล จนไม่เห็นแก่ความปลอดภัยของลูกค้าผู้บริโภค ก็ยิ่งน่าตำหนิที่สุด  

หากภาครัฐจะจัดการให้เด็ดขาดก็เพียงตรวจสอบย้อนกลับจาก “ใบสั่งซื้อ” ของร้านมีตช็อปทั้งหลาย เพื่อสาวไปให้ถึงบริษัทที่ส่งหมูราคาถูกเข้ามาให้ ย้อนกลับไปได้ถึงออเดอร์สั่งซื้อหมูไม่กี่บิลก็เชื่อว่าจะพบแหล่งที่มาได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นห้องเย็นที่เก็บสต็อกหมู เส้นทางขนส่งหมูเถื่อน รวมไปถึงตู้คอนเทนเนอร์ที่สังกัด .... ขึ้นอยู่เพียงว่าจะลงมือสืบสวน สอบสวนกันอย่างจริงจังหรือไม่

ระหว่างนี้เป็นช่วงหาเสียงของหลายๆพรรค แต่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐต้องใส่เกียร์ว่างรอเห็นรัฐมนตรีคนใหม่ของตนเสียเมื่อไหร่ โปรดอย่าปล่อยให้ขบวนการหมูเถื่อนลอยนวล และเร่งช่วยเหลือผู้บริโภคและลูกหลานไทยให้ได้รับประทานเนื้อหมูที่ปลอดภัยจากฝีมือเกษตรกรไทยโดยเร็วเถอะครับ   

โดย.... ปิติ ปัฐวิกรณ์